TradingKey – เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ Scott Bessent ระบุว่ารัฐบาลจะไม่เข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มโดยตรง แต่ต่อมาได้ชี้แจงว่าแผนขยายคลังสำรองเชิงยุทธศาสตร์ (strategic reserve) ยังเดินหน้าต่อ แม้มีคำชี้แจงดังกล่าว Bitcoin ก็ยังร่วงมากกว่า 4% ในวันเดียว
ในฐานะสมอของระบบการเงินโลก แนวทางของสหรัฐฯ ต่อการถือสำรอง Bitcoin จะสะสมหรือไม่ และอย่างไร จึงกลายเป็นหนึ่งในประเด็นที่ตลาดคริปโตจับตาอย่างใกล้ชิด การตัดสินใจนี้ไม่เพียงส่งผลต่อมูลค่า Bitcoin แต่ยังอาจปรับโครงสร้างระเบียบการเงินโลกใหม่
เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2025 ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศบรรจุคริปโต 5 สกุลไว้ใน Strategic Crypto Reserve ได้แก่
วันที่ 7 มีนาคม ทรัมป์ลงนามคำสั่งฝ่ายบริหารให้โอน Bitcoin ประมาณ 200,000 BTC ที่ยึดได้จากคดีอาญาและแพ่งก่อนหน้านี้ เข้าสู่คลังสำรอง พร้อมมอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงการคลังศึกษาวิธีขยายคลังสำรองโดย “ไม่เพิ่มภาระงบประมาณ” (budget-neutral) David Sacks “Crypto Czar” แห่งทำเนียบขาว กล่าวยกย่องว่ามาตรการนี้ “ไม่ทำให้ผู้เสียภาษีต้องควักเงินแม้แต่สตางค์เดียว”
เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม Bessent ตอกย้ำความมุ่งมั่นแนวทาง budget-neutral โดยระบุว่า: “กระทรวงการคลังมุ่งศึกษาช่องทางที่ไม่เพิ่มภาระงบประมาณในการได้มาซึ่ง Bitcoin เพิ่ม และปฏิบัติตามคำมั่นของประธานาธิบดีที่จะทำให้สหรัฐฯ เป็นมหาอำนาจ Bitcoin ของโลก” อย่างไรก็ดี จนถึงปัจจุบัน ยังไม่มีแผน budget-neutral ใดถูกนำมาใช้จริง
ทวีตที่ Bessant โพสต์ ที่มา: X
ปัจจุบัน กลยุทธ์ที่ใช้งานจริงมีเพียง “สะสมจากการยึดทรัพย์” แต่มีข้อเสนอแบบ budget-neutral หลายแนวทาง เช่น:
ผู้เขียน Adam Livingston เสนอให้จัดสรรส่วนหนึ่งของดุลการค้าเกินดุลรายเดือนเพื่อซื้อ Bitcoin ขณะเดียวกันเฟดก็เคยศึกษาการใช้กำไรจากการตีมูลค่าทองคำสำรองมาจัดหา BTC
กระนั้น ยังไม่มีคำตอบอย่างเป็นทางการ นักวิจารณ์อย่าง Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้ง BitMEX มองแผนสำรองนี้ว่าเป็นเพียง “วาทกรรม” ทางการเมืองที่ขาดการปฏิบัติจริง
ยุทธศาสตร์สำรอง Bitcoin ของสหรัฐฯ คือ “ภาษานโยบาย” ที่ทรงพลัง วิธีการสะสมสะท้อนระดับความชอบธรรมเชิงสถาบันที่มอบให้กับ Bitcoin โดยกว้าง ๆ แบ่งได้เป็นสองแนวทาง:
ประเภทกลยุทธ์ | แบบ “ซื้อจริง” (Purchase-Based) | แบบ “ไม่ซื้อโดยตรง” (Non-Purchase-Based) |
วิธีการ | ใช้รายได้คลัง, ภาษีศุลกากร, ขายทอง/น้ำมัน | รับบริจาค, ยึดทรัพย์, ไมน์นิ่ง, ภาษีคริปโต |
ความแรงของสัญญาณ | หนุนสุดขีด | รับรองในระดับปานกลาง |
กลยุทธ์ต่อดอลลาร์ | รุกคืบปกป้องบทบาทดอลลาร์ในโลกดิจิทัล | ตั้งรับ เปิดช่องให้คู่แข่งอย่างจีน/เกาหลี |
ผลต่อตลาด | ดึง BTC ออกจากอุปทาน กดซัพพลาย หนุนให้ราคาสูงขึ้นเชิงโครงสร้าง | กระทบสภาพคล่องน้อย อิทธิพลต่อราคานุ่มนวล |
การตีความของตลาด | Bitcoin ถูกยกระดับเป็นสินทรัพย์สำรองระดับรัฐ | Bitcoin เป็นการลงทุนที่มีหวัง ไม่ใช่เสาหลักการเงิน |
ผลระดับโลก | บังคับแบงก์ชาติ/กองทุนความมั่งคั่งปรับพอร์ต เปิดศึก “Bitcoin race” | กระตุ้นสถาบันเข้ามาถือ แต่ไม่เร่งเร้าในระดับรัฐ |
ท้ายที่สุด “รูปแบบ” การสะสม Bitcoin ของสหรัฐฯ คือภาษานโยบายที่ทรงอิทธิพล กลยุทธ์ซื้อโดยตรงอาจเขย่าระเบียบการเงินโลก ขณะที่แนวทางเชิงรับจะตอกย้ำสถานะเดิม สำหรับนักลงทุน การเข้าใจ “วิธีที่สหรัฐฯ ลงมือทำ” สำคัญกว่าคำถามว่า “ทำหรือไม่ทำ” เสียอีก