tradingkey.logo

USD/CHF ซื้อขายที่ระดับต่ำกว่า 0.7965 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของผู้ผลิตสวิสลดลง

FXStreet14 ก.ค. 2025 เวลา 11:58
  • USD/CHF เคลื่อนไหวลงใกล้ 0.7965 ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพยายามขยายการวิ่งขึ้น
  • ความหวังในการปรับปรุงข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ-สหภาพยุโรปได้จำกัดการวิ่งขึ้นของค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ
  • ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคานำเข้าสวิสลดลงเป็นเดือนที่สองติดต่อกัน

คู่เงิน USD/CHF ลดลงใกล้ 0.7965 ในช่วงเซสชั่นการซื้อขายยุโรปในวันจันทร์ คู่ฟรังก์สวิสของสหรัฐฯ ลดลงเล็กน้อย ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) ขยับลงในขณะที่พยายามขยายการวิ่งขึ้นท่ามกลางความหวังว่าสหรัฐอเมริกา (US) และสหภาพยุโรป (EU) จะสามารถบรรลุข้อตกลงการค้าก่อนเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม

ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งติดตามมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐเมื่อเปรียบเทียบกับสกุลเงินหลักหกสกุล แสดงให้เห็นถึงความเฉื่อยชาอยู่ที่ประมาณ 97.85

ความหวังในการบรรลุข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐฯ และ EU เพิ่มขึ้นเมื่อประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันว่าบล็อก 27 ประเทศยังคงอยู่ในระหว่างการเจรจากับวอชิงตันเพื่อบรรลุข้อตกลง

ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ความกังวลเกี่ยวกับการค้าโลกกลับมาอีกครั้งหลังจากที่ส่งจดหมายไปยัง EU และเม็กซิโก โดยกำหนดอัตราภาษี 30% ที่จะแยกออกจากภาษีในภาคส่วนต่าง ๆ และเตือนว่ามาตรการตอบโต้ใด ๆ จะถูกตอบสนองด้วยการเพิ่มภาษีนำเข้าอีก

ในขณะเดียวกัน ฟรังก์สวิส (CHF) ยังคงมีเสถียรภาพโดยทั่วไป แม้ว่าการลดลงของดัชนีราคาผู้ผลิตและราคานำเข้าสวิสได้กระตุ้นความคาดหวังว่าธนาคารแห่งชาติสวิส (SNB) อาจผลักดันอัตราดอกเบี้ยเข้าสู่เขตลบ

ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคานำเข้าสวิสลดลง 0.1% เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนก่อน ขณะที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนพฤษภาคม ราคาที่ระดับผู้ผลิตลดลง 0.3% เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา ดัชนีราคาผู้ผลิตและราคานำเข้าสลดลงอย่างต่อเนื่อง 0.7%

US Dollar: คำถามที่พบบ่อย

ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เป็นสกุลเงินที่ใช้อย่างเป็นทางการในสหรัฐอเมริกา และเป็นสกุลเงินที่ใช้ 'โดยพฤตินัย' ของประเทศอื่น ๆ จำนวนมากที่มีการหมุนเวียนควบคู่ไปกับสกุลเงินท้องถิ่น เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดในโลก โดยคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 88% ของมูลค่าการซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั่วโลก หรือมีมูลค่าธุรกรรมเฉลี่ย 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวันตามข้อมูลของปี 2022 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง สกุลเงิน USD เข้ามารับช่วงต่อตำแหน่งสกุลเงินสำรองของโลกจากสกุลเงินปอนด์ของอังกฤษที่เป็นในประวัติศาสตร์ใหญ่ สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้ถูกค้ำด้วยทองคำ จนกระทั่งเกิดข้อตกลง Bretton Woods ในปี 1971 เมื่อมาตรฐานการค้ำด้วยทองคำหมดไป

ปัจจัยเดียวที่สำคัญที่สุดที่ส่งผลต่อมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐคือนโยบายทางการเงินซึ่งกำหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เฟดมีหน้าที่สองประการ: เพื่อให้บรรลุเสถียรภาพด้านราคา (ควบคุมอัตราเงินเฟ้อ) และส่งเสริมการจ้างงานเต็มรูปแบบ เครื่องมือหลักในการบรรลุเป้าหมายทั้งสองนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ย เมื่อราคาต่าง ๆ เพิ่มสูงขึ้นเร็วเกินไปและอัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของเฟด ทางเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะหนุนค่าเงิน USD แต่เมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลงต่ำกว่า 2% หรืออัตราการว่างงานสูงเกินไป เฟดอาจเลือกปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อสกุลเงินดอลลาร์

ในสถานการณ์ที่รุนแรงมากจริง ๆ ทาง Federal Reserve ยังสามารถพิมพ์ดอลลาร์ออกมาเพิ่มเติมและออกมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ได้ การทำ QE เป็นกระบวนการที่เฟดเพิ่มการไหลเวียนของสินเชื่อในระบบการเงินที่ติดขัดอยู่อย่างมาก โดยเป็นมาตรการทางนโยบายที่ไม่ได้เป็นมาตรฐานซึ่งใช้เมื่อสินเชื่อหมดเนื่องจากธนาคารจะไม่ให้กู้ยืมระหว่างกัน (เพราะกลัวคู่สัญญาจะผิดนัดชำระหนี้) ก็เป็นทางเลือกสุดท้ายเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยเพียงอย่างเดียวไม่น่าจะบรรลุผลลัพล์ที่จำเป็น ถือเป็นเครื่องทางเลือกสุดท้ายของเฟดในการต่อสู้กับวิกฤติสินเชื่อที่เกิดขึ้นระหว่างวิกฤตการณ์ทางการเงินครั้งใหญ่ในปี 2008 โดยเกี่ยวข้องกับการที่เฟดพิมพ์เงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นและใช้เงินเหล่านั้นเพื่อซื้อพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากสถาบันการเงินต่าง ๆ การทำ QE มักจะทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง

การกระชับเชิงปริมาณ (QT) เป็นกระบวนการย้อนกลับของการทำ QE โดยที่ Federal Reserve จะหยุดซื้อพันธบัตรจากสถาบันการเงินและไม่นำเงินต้นไปลงทุนใหม่จากพันธบัตรที่ถืออยู่เพื่อซื้อใหม่ ซึ่งมักจะเป็นปัจจัยบวกสำหรับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI