tradingkey.logo

NZDUSD อ่อนตัวลงสู่ระดับใกล้ 0.6050 ก่อนประกาศข้อมูล GDP และยอดค้าปลีกจีน

FXStreet18 ต.ค. 2024 เวลา 4:37
  • ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ NZDUSD ปรับตัวลดลงมาที่ประมาณ 0.6055
  • ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้นในวันพฤหัสบดีสนับสนุนเงินดอลลาร์ 
  • นักลงทุนจะติดตามข้อมูล GDP ยอดค้าปลีกและการผลิตภาคอุตสาหกรรมของจีน ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์ 

ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ คู่ NZDUSD ยังคงอยู่ในแนวรับใกล้ 0.6055 มีความคาดหวังมากขึ้นสําหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed)  25 จุดเบสิส (bps) ในเดือนพฤศจิกายน และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่งขึ้นสนับสนุนเงินดอลลาร์และส่งผลกระทบต่อทั้งคู่ นักลงทุนรอดูข้อมูลเศรษฐกิจจีนในวันศุกร์ เช่นข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ยอดค้าปลีก และการผลิตภาคอุตสาหกรรมเพื่อเป็นแรงผลักดันใหม่  

ยอดค้าปลีกเดือนกันยายนของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ และตัวเลขเดือนสิงหาคมได้รับการปรับให้สูงขึ้น นอกจากนี้ จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ยังลดลงอย่างไม่คาดคิด รายงานที่ให้กําลังใจเหล่านี้กระตุ้นให้เทรดเดอร์เพิ่มเดิมพันว่าเฟดจะค่อยๆ ลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดๆ ไป หนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับดอลลาร์นิวซีแลนด์

"ข้อมูลที่แข็งแกร่งจะกระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมการประชุมเฟดผลักดันให้ลดอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน แต่ประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ไม่น่าจะหวั่นไหวจากการเดินหน้ามั่นคงในไตรมาสนี้" Ellen Zentner จาก Morgan Stanley Wealth Management กล่าว

ข้อมูลในวันพุธแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของนิวซีแลนด์ลดลงเหลือ 2.2% YoY ในไตรมาสที่สาม (Q3) จาก 3.3% ในการประกาศก่อนหน้า ตัวเลขดังกล่าวขยับกลับเข้ามาภายในกรอบเป้าหมาย 1% ถึง 3% ของธนาคารกลางเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ต้นปี 2021 คาดว่าธนาคารกลางนิวซีแลนด์จะลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

ข้อมูลเศรษฐกิจของจีนที่กําลังจะประกาศอาจให้คําใบ้เกี่ยวกับอัตราการเติบโตของจีน ซึ่งเป็นคู่ค้ารายใหญ่ของนิวซีแลนด์ สัญญาณความอ่อนแอในเศรษฐกิจจีนอาจสร้างแรงกดดันขายต่อกีวี สกุลเงินที่เป็นเหมือนตัวแทนของเศรษฐกิจจีนในอนาคตอันใกล้

New Zealand Dollar FAQs

ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง

ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า


 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน
Tradingkey

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI