นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันจันทร์ที่ 14 ตุลาคม:
คู่สกุลเงินหลักต่าง ๆ วิ่งซื้อขายใกล้กับระดับการปิดกราฟของสัปดาห์ก่อนเมื่อเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ ตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์กและตลาดหุ้น Nasdaq จะเปิดทําการในช่วงเวลาปกติในวันจันทร์ แต่ตลาดตราสารหนี้จะปิดทําการเนื่องจากเป็นวันหยุดวันโคลัมบัส แล้วในช่วงเซสชั่นซื้อขายของอเมริกา Neel Kashkari ประธานธนาคารกลางสาขามินนิอาโปลิสและ Christopher Waller ผู้ว่าการธนาคารกลางสหรัฐฯ จะกล่าวสุนทรพจน์
ดอลลาร์สหรัฐ (USD) แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญ ๆ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยดัชนีดอลลาร์ปรับตัวขึ้นได้เป็นสัปดาห์ที่สองติดต่อกัน ในช่วงเช้าของเวลายุโรปในวันจันทร์ ดัชนีดอลลาร์ทรงตัวได้ที่ประมาณ 103.00 ในขณะเดียวกัน ในขณะที่ฟิวเจอร์สของดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายต่ำลงเล็กน้อยในวันนี้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงท่าทีที่ระมัดระวัง ด้านโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าพวกเขา "กังวลอย่างยิ่งกับการฝึกซ้อมทางทหารของกองทัพปลดปล่อยประชาชน (PLA) ในช่องแคบไต้หวันและรอบไต้หวัน" และในขณะเดียวกัน CNN รายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่า ทหารอิสราเอลอย่างน้อย 4 นายเสียชีวิตลงและมากกว่า 60 รายได้รับบาดเจ็บจากการโจมตีของฮิซบอลเลาะห์ด้วยโดรนในตอนเหนือของอิสราเอล
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ 7 วันล่าสุด ดอลลาร์สหรัฐ แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์แคนนาดา
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | 0.41% | 0.38% | 0.33% | 1.52% | 0.86% | 1.03% | -0.01% | |
EUR | -0.41% | 0.03% | -0.07% | 1.15% | 0.42% | 0.61% | -0.45% | |
GBP | -0.38% | -0.03% | -0.14% | 1.12% | 0.39% | 0.62% | -0.36% | |
JPY | -0.33% | 0.07% | 0.14% | 1.19% | 0.51% | 0.65% | -0.30% | |
CAD | -1.52% | -1.15% | -1.12% | -1.19% | -0.63% | -0.49% | -1.52% | |
AUD | -0.86% | -0.42% | -0.39% | -0.51% | 0.63% | 0.24% | -0.82% | |
NZD | -1.03% | -0.61% | -0.62% | -0.65% | 0.49% | -0.24% | -1.00% | |
CHF | 0.01% | 0.45% | 0.36% | 0.30% | 1.52% | 0.82% | 1.00% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).
EUR/USD ปิดกราฟวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนโดยไม่เปลี่ยนแปลงนักแม้จะปิดกราฟรายสัปดาห์ในแดนลบ คู่เงินนี้ผันผวนในกรอบแคบ ๆ ใกล้ 1.0930 เมื่อเริ่มต้นเซสชั่นยุโรปของวันจันทร์
GBP/USD ยังคงอยู่ในช่วงเวลาของการพักฐานใต้ระดับ 1.3100 หลังจากวิ่งขาลงเล็กน้อยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สํานักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (UK) จะเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานในวันอังคารและเผยแพร่ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในวันพุธ
USD/JPY ขยับขึ้น-ลงในกรอบราคาแคบ ๆ เหนือระดับ 149.00 ในวันจันทร์ โดยนายกรัฐมนตรี ชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่นกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขาจะไม่แทรกแซงการดำเนินการในนโยบายทางการเงิน เนื่องจากธนาคารกลางญี่ปุ่นได้รับหน้าที่ให้บรรลุเป้าหมายเสถียรภาพด้านราคา
หลังจากปรับตัวขาลงด้วยปฏิกิริยาแรกต่อข้อมูลตลาดแรงงานของแคนาดาที่สดใส คู่เงิน USD/CAD ก็กลับมาทรงตัวได้และปิดกราฟรายวันได้ในแดนบวกติดต่อกันเป็นครั้งที่แปดในวันศุกร์ คู่สกุลเงินนี้ยังคงทรงตัวได้ในช่วงเช้าวันจันทร์และปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 1.3800 ตลาดแคนาดาจะยังคงปิดทําการเพื่อเฉลิมฉลองวันขอบคุณพระเจ้าในวันจันทร์ แล้วในวันอังคาร ปฏิทินเศรษฐกิจของแคนาดาจะมีการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อของเดือนกันยายน
ราคาทองคําอาจปรับตัวขึ้นต่อจากการวิ่งขาขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดีและได้เพิ่มขึ้นเกือบ 1% ในวันศุกร์ ในขณะที่รายงานข่าวนี้ XAU/USD ขยับตัวด้านข้างอยู่ที่ประมาณ 2,660 ดอลลาร์
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น