ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ คู่ EURUSD ยังคงอยู่ในแนวรับใกล้ 1.1035 ท่ามกลางเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น บรรยากาศการลงทุนที่เต็มไปด้วยความระมัดระวังก่อนประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สําคัญของสหรัฐฯ ส่งผลกระทบต่อคู่สกุลเงินหลัก ทุกสายตาจะจับจ้องไปที่การเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐฯ ซึ่งจะประกาศในวันศุกร์
ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการของสหรัฐฯ ที่ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีให้การสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ (USD) ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดหา (ISM) แสดงให้เห็นว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายบริการเพิ่มขึ้นเป็น 54.9 ในเดือนกันยายนจาก 51.5 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 51.7
ในขณะเดียวกัน จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 6,000 รายเป็น 225,000 รายในสัปดาห์ที่นับถึงวันที่ 28 กันยายน ตัวเลขนี้ออกมาหลังจากตัวเลขของสัปดาห์ก่อนหน้าที่ 219,000 ราย (ปรับตัวเลขจาก 218,000 ราย) และต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 220,000 ราย
ประธานเฟดนายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ระบุในสัปดาห์นี้ว่าผู้กําหนดนโยบายมีแนวโน้มที่จะยึดติดกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดเบสิส (bps) ในอนาคต ตามข้อมูลของ CME FedWatch Tool ตลาดเชื่อว่ามีโอกาสเกือบ 68.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 bps ในขณะที่โอกาสลดอัตราดอกเบี้ย 50 bps อยู่ที่ 31.1%
การจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์อาจให้เบาะแสเกี่ยวกับเส้นทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ คาดว่าเศรษฐกิจอเมริกาจะมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 140,000 ตําแหน่งในเดือนกันยายน ในขณะที่อัตราการว่างงานคาดว่าจะทรงตัวที่ 4.2% หากรายงานการจ้างงานมีตัวเลขอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ อาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางพิจารณาลดอัตราดอกเบี้ยให้ลึกขึ้น ซึ่งอาจสร้างแรงกดดันขายต่อ USD
ผู้กําหนดนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังคงบอกเป็นนัยว่าการปรับลดราคาอีกครั้งอาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ ในทางกลับกัน สิ่งนี้อาจทำให้เงินยูโร (EUR) อ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ Kyle Chapman นักวิเคราะห์ตลาดสกุลเงินของ Ballinger Group กล่าวว่า "นโยบายมีความเข้มงวดมากเกินไปเนื่องจากสภาพแวดล้อเศรษฐกิจมมหภาคที่ยากลําบาก และการเปลี่ยนไปปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่องดูเหมือนจะเกิดขึ้นเพราะการลดเงินเฟ้ออยู่ในช่วงใกล้จะจบลงแล้ว