tradingkey.logo

คาดการณ์ราคา EUR/USD: พบแนวต้านแรกในขาขึ้นพบเหนือระดับ 1.1200 จับตาดูสภาวะการเข้าซื้อมากเกินไป

FXStreet26 ส.ค. 2024 เวลา 13:30
  • EUR/USD ปรับตัวลดลงมาใกล้ระดับ 1.1185 ในช่วงของเซสชั่นยุโรปของวันจันทร์
  • แนวโน้มเชิงบวกของคู่นี้สามารถยืนได้เหนือเส้น EMA 100 วัน แต่สภาวะเข้าซื้อมากเกินไปในสัญญาณ RSI อาจจํากัดแรงขาขึ้น 
  • ระดับแนวต้านแรกปรากฏที่ระดับ 1.1223  ด้านระดับแนวรับที่สําคัญที่ต้องจับตามองคือระดับเลขกลม ๆ ที่ 1.1100

คู่ EUR/USD อ่อนค่าลงมาใกล้ 1.1185 ในช่วงต้นของเซสชั่นยุโรปในวันจันทร์  โดยการฟื้นตัวเล็กน้อยของดอลลาร์สหรัฐ (USD) ฉุดคู่เงินนี้ให้ต่ำลง แต่อย่างไรก็ตาม แรงขาลงของ EUR/USD อาจถูกจํากัดไว้ เนื่องจากคุณพาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ให้สัญญาณที่ชัดเจนสําหรับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน 

ตามกราฟรายวัน EUR/USD ยังคงรักษาบรรยากาศการวิ่งขาขึ้นไว้ไม่เปลี่ยนแปลง เนื่องจากคู่เงินนี้วิ่งอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 100 วันที่สําคัญ  ด้านดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันอยู่เหนือเส้นกึ่งกลางใกล้ระดับ 72.70 ซึ่งบ่งชี้ถึงสภาวะ RSI ที่มีการเข้าซื้อมากเกินไป ปัจจัยนี้ชี้ให้เห็นว่า เราไม่สามารถตัดโอกาสการปรับฐานในกรอบเพิ่มเติมก่อนที่จะเริ่มวางออเดอร์เก็งการแข็งค่าของ EUR/USD ในระยะสั้นต่อไป

แนวต้านแรกในขาขึ้นสําหรับคู่สกุลเงินหลักดังกล่าวพบที่ระดับ 1.1223 ซึ่งเป็นขอบบนของแถบ Bollinger Band  และต่อไปทางทิศเหนือ แนวต้านถัดไปจะอยู่ที่ระดับ 1.1275 (จุดสูงสุดของวันที่ 18 กรกฎาคม) ระหว่างเส้นทางไปยังระดับ 1.1360 (จุดสูงสุดของวันที่ 16 ธันวาคม) ตัวกรองการวิ่งขาขึ้นเพิ่มเติมที่ต้องจับตามองอยู่ที่ 1.1483 (จุดสูงสุดของวันที่ 14 มกราคม) 

ในขาลง ระดับแนวรับที่สําคัญอยู่ที่ระดับทางจิตวิทยาที่ 1.1100  การทะลุระดับนี้จะเห็นการปรับตัวลดลงไปที่ 1.0940 (จุดสูงสุดของวันที่ 18 กรกฎาคม) ตามด้วยเส้น 1.0873 (เส้น EMA 100 วัน) 

กราฟรายวันของ EUR/USD

 
 

สกุลเงินยูโร (EUR): คําถามที่พบบ่อย

ยูโรคืออะไร?

ยูโรเป็นสกุลเงินสําหรับ 20 ประเทศในสหภาพยุโรปที่อยู่ในยูโรโซน เป็นสกุลเงินที่มีการซื้อขายมากเป็นอันดับสองของโลกรองจากดอลลาร์สหรัฐ โดยในปี 2022 คิดเป็น 31% ของธุรกรรมแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศทั้งหมด โดยมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 2.2 ล้านล้านดอลลาร์ต่อวัน คู่เงิน EUR/USD เป็นคู่สกุลเงินที่มีการซื้อขายมากที่สุดในโลกโดยคิดเป็นประมาณ 30% จากธุรกรรมทั้งหมด ตามด้วย EUR/JPY (4%), EUR/GBP (3%) และ EUR/AUD (2%)

ECB คืออะไรและส่งผลกระทบต่อเงินยูโรอย่างไร?

ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เป็นธนาคารกลางของยูโรโซน โดยทาง ECB ทำการกําหนดอัตราดอกเบี้ยและจัดการนโยบายการเงิน หน้าที่หลักของ ECB คือการรักษาเสถียรภาพด้านราคาซึ่งหมายถึงการควบคุมอัตราเงินเฟ้อหรือกระตุ้นการเติบโต เครื่องมือหลักคือการเพิ่มหรือลดอัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่ค่อนข้างสูง – หรือความคาดหวังของอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น – มักจะเป็นอานิสงส์ต่อค่าเงินยูโรและในทางกลับกันด้วย  สมาชิกสภาปกครองของ ECB ทําการตัดสินใจนโยบายการเงินในการประชุมที่จัดขึ้นแปดครั้งต่อหนึ่งปี การตัดสินใจทําโดยหัวหน้าธนาคารแห่งชาติยูโรโซนและสมาชิกถาวรหกคน ซึ่งรวมถึงประธาน Christine Lagarde ของ ECB เองด้วย

ข้อมูลเงินเฟ้อส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินยูโรอย่างไร?

ข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของยูโรโซนซึ่งวัดโดยดัชนีราคาผู้บริโภคที่สอดคล้องกันภายใน (HICP) เป็นเศรษฐมิติที่สําคัญสําหรับเงินยูโร หากอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดไว้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสูงกว่าเป้าหมาย 2% ของ ECB จะทําให้ ECB ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อควบคุมอัตราดอกเบี้ยให้ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ โดยมักจะเป็นอานิสงส์ต่อค่าเงินยูโร เนื่องจากทําให้ภูมิภาคนี้น่าดึงดูดยิ่งขึ้นในฐานะสถานที่สําหรับนักลงทุนทั่วโลกในการพักเงินของพวกเขา

ข้อมูลทางเศรษฐกิจมีอิทธิพลต่อมูลค่าของเงินยูโรอย่างไร?

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจจะวัดสุขภาพของเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อเงินยูโรได้ ตัวชี้วัดต่าง ๆ เช่น GDP, ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการ การจ้างงาน และการสํารวจความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ล้วนมีอิทธิพลต่อทิศทางของสกุลเงินยูโร เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งที่ดีสําหรับค่าเงินยูโร ไม่เพียงแต่เป็นการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศมากขึ้น แต่ยังอาจกระตุ้นให้ ECB ต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยซึ่งจะทําให้เงินยูโรแข็งค่าขึ้นโดยตรง  โดยกลับกัน หากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ ค่าเงินยูโรก็มีแนวโน้มที่จะลดระดับลง ข้อมูลเศรษฐกิจสําหรับประเทศฐานเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดสี่แห่งในเขตยูโร (ได้แก่ เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน) มีความสําคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากคิดเป็น 75% ของปริมาณเศรษฐกิจในยูโรโซน

ตัวเลขดุลการค้าส่งผลกระทบต่อเงินยูโรอย่างไร?

การเปิดเผยข้อมูลที่สําคัญอีกประการหนึ่งสําหรับเงินยูโรคือดุลการค้า ตัวบ่งชี้นี้วัดความแตกต่างระหว่างสิ่งที่ประเทศได้รับจากการส่งออกและจำนวนการใช้จ่ายในการนําเข้าในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ที่กําหนด  หากประเทศใดผลิตสินค้าส่งออกที่เป็นที่ต้องการอย่างมากสกุลเงินของประเทศนั้นจะได้รับมูลค่าจากความต้องการเป็นพิเศษที่สร้างขึ้นจากผู้ซื้อต่างชาติที่ต้องการซื้อสินค้าเหล่านี้ ดังนั้นยอดดุลการค้าสุทธิที่เป็นบวกทําให้สกุลเงินแข็งแกร่งขึ้น และในทางกลับกันสําหรับยอดดุลการค้าที่ติดลบก็จะส่งผลให้สกุลเงินอ่อนค่าลง

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI