NZD/USD ขยายการปรับตัวขาลงเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน โดยมีการซื้อขายที่ประมาณ 0.6110 ในช่วงเซสชั่นเอเชียของวันพุธ สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) เผชิญแรงกดดันขาลงซึ่งอาจเกิดจากบรรยากาศการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในตลาด ก่อนการรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของ ANZ - Roy Morgan ในเดือนมิถุนายน ที่ใกล้เข้าามา และรายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศของสหรัฐอเมริกา (GDP) สำหรับไตรมาสแรก (Q1) มีกำหนดจะเปิดเผยในวันพฤหัสบดี นอกจากนี้จะมีการจับตาดูรายงานดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันศุกร์อีกด้วย
ด้านกระทรวงการคลังของนิวซีแลนด์ระบุเมื่อวันพุธว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอเป็นแรงกดดันต่อการคาดการณ์งบประมาณทางการคลัง โดยกำลังพิจารณาถึงทางออกในการแก้ปัญหาการใช้จ่ายและรายได้เพิ่มเติมเพื่อตอบสนอง โดยในขณะเดียวกันนักเศรษฐศาสตร์ McLeish ตั้งข้อสังเกตถึงข้อมูลล่าสุดที่บ่งบอกถึงความอ่อนแอทางเศรษฐกิจในนิวซีแลนด์เช่นกัน
จากข้อมูลของนักวิเคราะห์กลุ่ม UOB มีการคาดว่า สกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) จะซื้อขายในกรอบไซด์เวย์ที่ 0.6100 ถึง 0.6140 หรือก็พอมีโอกาสของการเคลื่อนตัวลงมาเข้าหาระดับ 0.6085
อ่านข่าวนี้: NZD/USD: จะซื้อขายอยู่ภายในกรอบ 0.6100/0.6140 – UOB Group
ในฝั่งของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ซึ่งวัดมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักอื่น ๆ อีกหกสกุล ขยายการแข็งค่าขึ้นเป็นเซสชั่นที่สองติดต่อกัน โดย DXY ซื้อขายที่ประมาณ 105.70 โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีสูงขึ้นจากการซื้อขายแลกเปลี่ยน อยู่ที่ 4.26% ในขณะที่เขียนข่าวนี้
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงถึงผู้ว่าการเฟด มิเชล โบว์แมน (Michelle Bowman) ที่ย้ำถึงมุมมองของเธอเมื่อวันอังคารว่า การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระยะหนึ่งน่าจะเพียงพอที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อได้ ในขณะเดียวกันผู้ว่าการเฟดอีกท่านหนึ่ง นางลิซ่า คุก (Lisa Cook) ได้กล่าวว่า เป็นเรื่องเหมาะสมที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย "ในบางช่วงเวลา" เนื่องจากเห็นความคืบหน้าที่สำคัญเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและการค่อย ๆ เย็นตัวลงของตลาดแรงงานแล้ว แม้ว่าเธอจะยังคงไม่แน่ใจเกี่ยวกับช่วงเวลาของการผ่อนคลายเชิงนโยบายนี้ก็ตาม