Investing.com — ราคาน้ํามันปรับตัวลดลงต่อเนื่องในการซื้อขายช่วงเอเชียวันศุกร์ และมีแนวโน้มที่จะขาดทุนรายสัปดาห์ เนื่องจากความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาดกลับมาอีกครั้งหลังจากมีรายงานว่า OPEC+ อาจกําลังพิจารณาเพิ่มระดับการผลิตอีกครั้ง
ณ เวลา 01:36 น. สัญญาน้ํามันดิบ Brent ที่จะหมดอายุในเดือนกรกฎาคมลดลง 0.5% มาอยู่ที่ $64.11 ต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ํามันดิบ West Texas Intermediate (WTI) ก็ลดลง 0.5% มาอยู่ที่ $60.92 ต่อบาร์เรล
สัญญาทั้งสองมีแนวโน้มที่จะลดลงเกือบ 2% ในรอบสัปดาห์นี้
องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ํามันและพันธมิตร หรือที่รู้จักกันในนาม OPEC+ กําลังพิจารณาความเป็นไปได้ในการเพิ่มการผลิตอีกครั้งในการประชุมที่จะมีขึ้นในวันที่ 1 มิถุนายน ตามรายงานของ Bloomberg News เมื่อวันพฤหัสบดี
ตามข้อมูลจากตัวแทนที่อ้างถึงในรายงาน หนึ่งในตัวเลือกที่กําลังพิจารณาคือการเพิ่มอุปทานจํานวน 411,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกรกฎาคม แม้ว่าจะยังไม่มีการตัดสินใจขั้นสุดท้ายก็ตาม
"สิ่งนี้จะเป็นการยืนยันการเปลี่ยนแปลงนโยบายของกลุ่ม - จากการปกป้องราคาไปสู่การปกป้องส่วนแบ่งการตลาด" นักวิเคราะห์จาก ING กล่าวในบันทึก
OPEC+ อยู่ในกระบวนการยกเลิกการลดกําลังการผลิต โดยมีการเพิ่มปริมาณให้กับตลาดในเดือนพฤษภาคมและมิถุนายน
การประชุม OPEC+ ที่กําลังจะมาถึงนี้จะเป็นช่วงเวลาสําคัญสําหรับตลาดน้ํามัน เนื่องจากการตัดสินใจของกลุ่มเกี่ยวกับระดับการผลิตอาจมีผลกระทบอย่างมีนัยสําคัญต่ออุปทานน้ํามันและราคาทั่วโลก
ราคาน้ํามันอยู่ภายใต้แรงกดดันอยู่แล้วหลังจากที่สํานักงานข้อมูลพลังงาน (EIA) รายงานว่าสต็อกน้ํามันดิบของสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิด 1.3 ล้านบาร์เรลสําหรับสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 พฤษภาคม ซึ่งยิ่งตอกย้ําความกังวลเรื่องอุปทานล้นตลาด
ก่อนหน้านี้ในสัปดาห์นี้ สถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ยังรายงานการเพิ่มขึ้นอย่างไม่คาดคิดของสต็อกน้ํามันดิบสหรัฐฯ จํานวน 2.5 ล้านบาร์เรล
นักลงทุนรอคอยอย่างระมัดระวังเพื่อรับข่าวสารเกี่ยวกับการเจรจานิวเคลียร์รอบที่ห้าระหว่างอิหร่านและสหรัฐอเมริกาที่กําหนดไว้ในวันศุกร์ที่ 23 พฤษภาคมที่กรุงโรม โดยโอมานยังคงทําหน้าที่เป็นตัวกลาง
ประเด็นสําคัญที่ยังคงเป็นข้อขัดแย้งคือกิจกรรมการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมของอิหร่าน ในขณะที่สหรัฐฯ เรียกร้องให้หยุดการเสริมสมรรถนะอย่างสิ้นเชิง อิหร่านยืนยันสิทธิในการเสริมสมรรถนะยูเรเนียมเพื่อวัตถุประสงค์ทางสันติ
หากการเจรจามีความคืบหน้าหรือนําไปสู่การผ่อนคลายมาตรการคว่ําบาตรของสหรัฐฯ อิหร่านอาจเพิ่มการส่งออกน้ํามันดิบ ซึ่งจะยิ่งส่งผลให้เกิดสถานการณ์อุปทานล้นตลาด
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน