tradingkey.logo

ซิงเทลรายงานกำไรประจำปีเพิ่มขึ้น 9% พร้อมประกาศซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1.6 พันล้านดอลลาร์

Investing.com22 พ.ค. 2025 เวลา 0:15

Investing.com — Singapore Telecommunications (Singtel) (SGX:STEL) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่ามีกําไรสุทธิพื้นฐานเพิ่มขึ้น 9% โดยได้รับแรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของหน่วยงานในออสเตรเลียอย่าง Optus ธุรกิจบริการไอทีอย่าง NCS และบริษัทร่วมในภูมิภาคอย่าง Bharti Airtel (NSE:BRTI) และ AIS

ยักษ์ใหญ่ด้านโทรคมนาคมยังได้ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (1.55 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการบริหารเงินทุนในวงกว้าง

กําไรสุทธิพื้นฐานสําหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม อยู่ที่ 2.47 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 9% จาก 2.26 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในปีก่อนหน้า

กําไรสุทธิของกลุ่มบริษัทเพิ่มขึ้นมากกว่าห้าเท่าเป็น 4.02 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เนื่องจากมีกําไรพิเศษครั้งเดียวจํานวน 1.55 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการขายสํานักงานใหญ่ Comcentre บางส่วน

ยูเอน กวน มูน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท กล่าวว่าผลประกอบการสะท้อนถึงการดําเนินการตามกลยุทธ์ Singtel28 อย่างแข็งแกร่งและการปรับโครงสร้างการดําเนินงานอย่างมีนัยสําคัญที่มุ่งเน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน

แม้ว่าความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์และแรงกดดันด้านเงินเฟ้อยังคงอยู่ แต่ซิงเทลคาดว่าจะได้รับประโยชน์จากความต้องการที่เพิ่มขึ้นสําหรับการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลและ AI บริษัทวางแผนที่จะลงทุน 2.5 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ในค่าใช้จ่ายด้านทุน รวมถึง 800 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์สําหรับศูนย์ข้อมูลและโครงสร้างพื้นฐานด้าน AI

สําหรับแนวโน้มในอนาคต บริษัทคาดการณ์การเติบโตของกําไรก่อนดอกเบี้ยและภาษี (EBIT) ในระดับเลขหลักเดียวสูงสําหรับปีงบประมาณ 2026

"แม้ว่าภาษีศุลกากรจะไม่มีผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจของกลุ่มซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ แต่ความขัดแย้งทางการค้าอาจส่งผลกระทบต่อซิงเทลโดยอ้อมผ่านความรู้สึกของผู้บริโภคและธุรกิจที่อ่อนแอลง" บริษัทกล่าวในแถลงการณ์

คณะกรรมการของซิงเทลประกาศเงินปันผลงวดสุดท้ายที่ 10 เซ็นต์สิงคโปร์ต่อหุ้น ทําให้เงินปันผลรวมประจําปีอยู่ที่ 17.0 เซ็นต์

โครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ที่ประกาศใหม่ ซึ่งจะดําเนินการในระยะเวลาสามปี เป็นโครงการแรกภายใต้นโยบายการคืนทุนที่เพิ่มขึ้นซึ่งเริ่มใช้ในปี 2024 บริษัทกล่าว

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI