tradingkey.logo

คาดการณ์ราคาเงิน: XAGUSD พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีเหนือ 48.50 ดอลลาร์ท่ามกลางการเก็งการลดดอกเบี้ยของเฟดและความวุ่นวายในสหรัฐฯ

FXStreet8 ต.ค. 2025 เวลา 7:01
  • ราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นใกล้ $48.60 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรปวันพุธ
  • ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปิดรัฐบาลสหรัฐฯ และแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดช่วยสนับสนุนราคาโลหะเงิน
  • รายงานการประชุม FOMC และการแสดงความคิดเห็นของเฟดจะเป็นไฮไลท์ในวันพุธนี้

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ปรับตัวสูงขึ้นเป็นประมาณ $48.65 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรปวันพุธ โลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นใกล้กับระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี ท่ามกลางความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และการปิดรัฐบาลสหรัฐฯ ที่กำลังดำเนินอยู่

การปิดรัฐบาลสหรัฐฯ เข้าสู่วันที่แปดในวันพุธ ระดับความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นอาจช่วยกระตุ้นกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งสนับสนุนราคาโลหะเงิน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวเมื่อวันอังคารว่า การบริหารของเขาวางแผนที่จะเลิกจ้างพนักงานรัฐบาลกลางหากการปิดรัฐบาลยังคงดำเนินต่อไปหลังจากวันจันทร์ พร้อมทั้งระบุว่าเขาจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการเลิกจ้างงานภายในสี่หรือห้าวันข้างหน้า

การปิดรัฐบาลได้เลื่อนการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) ของสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนต้องพึ่งพาข้อมูลรองเพื่อประเมินเวลาและขอบเขตของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ขณะนี้นักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 25 จุดพื้นฐาน (bps) ในการประชุมเดือนตุลาคมของเฟด โดยคาดว่าจะมีการปรับลดอีก 25 bps ในเดือนธันวาคม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะเงิน ซึ่งสนับสนุนโลหะมีค่าที่ไม่มีผลตอบแทน

นักลงทุนจะรอข้อมูลเพิ่มเติมจากรายงานการประชุม FOMC ในวันพุธนี้เพื่อให้ได้ข้อมูลเกี่ยวกับแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีกำหนดจะพูดคุย หากมีความคิดเห็นที่เข้มงวดจากผู้กำหนดนโยบายของเฟด อาจช่วยสนับสนุนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) และกดดันราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์ในระยะสั้น

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI