tradingkey.logo

คาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ยังคงอยู่เหนือ $45.00 ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีใหม่

FXStreet26 ก.ย. 2025 เวลา 7:05
  • ราคาเงินยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ $45.29 ซึ่งทำได้เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
  • ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ อาจทำให้เฟดต้องใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างลึกซึ้ง
  • นายกูลส์บีจากเฟดกล่าวว่าเขาไม่ต้องการที่จะดำเนินการผ่อนคลายนโยบายเพิ่มเติมในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าที่ตั้งเป้า

ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรป ราคาเงิน (XAG/USD) ยังคงอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีใหม่ที่ $45.29 ซึ่งทำได้เมื่อวันศุกร์ ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $45.20 โลหะมีค่าเงินยังคงเป้นขาลงหลัเพิ่มขึ้นเกือบ 3% ในเซสชันก่อนหน้า นักลงทุนรอข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมในภายหลังเพื่อหาแรงผลักดันใหม่

ข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งจากสหรัฐฯ อาจกระตุ้นให้ (เฟด) ใช้แนวทางที่ระมัดระวังมากขึ้นในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย เงินเงินที่ไม่มีดอกเบี้ยดึงดูดผู้ขายบางราย เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นอาจเพิ่มต้นทุนโอกาสในการถือครอง นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.5% ซึ่งอาจทำให้การเพิ่มขึ้นของสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ถูกจำกัด

ในสหรัฐฯ ลดลงเหลือ 218,000 รายในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกรกฎาคม โดยคาดการณ์ในตลาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 235,000 รายจาก 232,000 รายก่อนหน้านี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของสหรัฐฯ เติบโต 3.8% ในไตรมาสที่สอง (Q2) ซึ่งสูงกว่าการประมาณการก่อนหน้าและการคาดการณ์ที่ 3.3% ในขณะเดียวกัน ดัชนีราคาของ GDP เพิ่มขึ้น 2.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับการเติบโตที่คาดการณ์และก่อนหน้านี้ที่ 2.0%

นายออสแตน กูลส์บี ประธานเฟดชิคาโกกล่าวว่าเขาไม่กระตือรือร้นที่จะดำเนินการผ่อนคลายนโยบายมากขึ้นในขณะที่อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าที่ตั้งเป้าและเคลื่อนไปในทิศทางที่ไม่ถูกต้อง อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการเฟด สตีเฟน มิแรน ซึ่งเป็นผู้กำหนดนโยบายคนใหม่ของเฟด ชอบการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.50% ที่มีความก้าวหน้าเพื่อป้องกันการล่มสลายของตลาดแรงงาน ในขณะเดียวกัน ประธานเฟดแคนซัสซิตี้ เจฟฟรีย์ ชมิดด์กล่าวว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อช่วยให้มั่นใจว่าตลาดงานยังคงอยู่ในสภาพดี

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI