นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนวันอังคารที่ 16 กรกฎาคม:
หลังจากการลดลงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ก่อนหน้า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD) ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงเช้าวันอังคาร เพิ่มขึ้นจากการปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ ในการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีดัชนีราคาส่งออก ดัชนีราคานําเข้า และข้อมูลยอดค้าปลีกสําหรับเดือนมิถุนายน ในขณะเดียวกัน สำนักงานสถิติแคนาดาจะประกาศตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือนมิถุนายนในช่วงต้นของตลาดลงทุนอเมริกา
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์์นิวซีแลนด์
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | 0.11% | 0.18% | 0.19% | 0.34% | 0.60% | 0.83% | 0.05% | |
EUR | -0.11% | 0.11% | 0.28% | 0.42% | 0.53% | 0.91% | 0.13% | |
GBP | -0.18% | -0.11% | 0.27% | 0.33% | 0.42% | 0.75% | 0.02% | |
JPY | -0.19% | -0.28% | -0.27% | 0.14% | 0.18% | 0.59% | -0.34% | |
CAD | -0.34% | -0.42% | -0.33% | -0.14% | 0.19% | 0.48% | -0.30% | |
AUD | -0.60% | -0.53% | -0.42% | -0.18% | -0.19% | 0.38% | -0.39% | |
NZD | -0.83% | -0.91% | -0.75% | -0.59% | -0.48% | -0.38% | -0.78% | |
CHF | -0.05% | -0.13% | -0.02% | 0.34% | 0.30% | 0.39% | 0.78% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).
อารมณ์ของตลาดยังคงระมัดระวังในช่วงต้นสัปดาห์ช่วยให้ USD ยังคงฟื้นตัวกลับมาได้เมื่อเทียบกับคู่แข่ง ในช่วงครึ่งหลังของวันจันทร์ นายเจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ปฏิเสธที่จะยืนยันว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน ซึ่งจะช่วยสนับสนุนสกุลเงิน USD ต่อไป พาวเวลล์รับทราบที่ข้อมูลเงินเฟ้อลดลง โดยกล่าวว่าตัวเลขเงินเฟ้อสามครั้งล่าสุดแสดงถึงความคืบหน้าเพิ่มเติม แต่ย้ำว่าพวกเขาจะตัดสินใจกันไปในการประชุมแต่ละครั้ง
ดัชนี USD ปรับตัวสูงขึ้นสู่ 104.50 ในตลาดลงทุนยุโรป และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปียังคงอยู่ใกล้ 4.2% ในขณะเดียวกัน ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ฟิวเจอร์สปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยหลังจากดัชนีหลักของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทปิดการซื้อขายวันแรกของสัปดาห์ในแดนบวก
USDCAD เริ่มต้นสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาขึ้น และเพิ่มขึ้นเกือบ 0.4% ในวันจันทร์ นักลงทุนคาดว่า CPI จะเพิ่มขึ้น 0.1% MoM ในเดือนมิถุนายนหลังจากเพิ่มขึ้น 0.6% อย่างน่าประหลาดใจในเดือนพฤษภาคม ก่อนประกาศข้อมูลเงินเฟ้อ USDCAD ปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ 1.3700
EURUSD ไต่ขึ้นสู่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเหนือ 1.0920 ในวันจันทร์ แต่ล้มเหลวในการรักษาโมเมนตัมขาขึ้น ทั้งคู่เคลื่อนไหวในกรอบราคาแคบๆ ที่ประมาณ 1.0900 ในเช้าของตลาดลงทุนยุโรป ในวันอังคาร จะมีการประกาศข้อมูลความเชื่อมั่นจาก ZEW ของเยอรมนีและยูโรโซน
หลังจากปรับตัวขึ้นอย่างน่าประทับใจเป็นเวลาสองสัปดาห์ติดต่อกัน GBPUSD ปรับฐานเนื่องจากฝั่งผู้ซื้อถอยลงหลังจากไปทดสอบ 1.3000 คู่นี้เคลื่อนไหวไซด์เวย์เหนือ 1.2950 เล็กน้อย สํานักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักรจะประกาศข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมิถุนายนในเช้าตรู่ของตลาดลงทุนยุโรปวันพุธ
ทองคําฟื้นกลับมาเป็นขาขึ้นอีกครั้งหลังจากทดสอบ 2,400 ดอลลาร์ และทำราคาปิดสูงขึ้นเล็กน้อยในวันจันทร์ XAUUSD ยังคงยืนหยัดและผลักดันตัวเองให้สูงขึ้นสู่ $2,440 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรปในวันอังคาร
USDJPY ปิดวันแรกของสัปดาห์แทบไม่เปลี่ยนแปลงหลังจากประสบกับการร่วงลงครั้งใหญ่ในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ก่อนหน้า ทั้งคู่ได้รับแรงหนุนในช่วงเช้าวันอังคาร และเคลื่อนไหวในแดนบวกใกล้ 158.50
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่เป็นตัวอ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้าประเทศเพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรเพื่อฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ใจปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น