คู่ NZD/USD ซื้อขายด้วยบรรยากาศการแข็งค่าขึ้นอยู่ที่บริเวณระดับ 0.6130 ในวันอังคารในช่วงชั่วโมงแรก ๆ ของเซสชั่นการซื้อขายของเอเชีย สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐนี้ (USD) กำลังพักฐานอยู่ในขณะที่เทรดเดอร์รอแถลงการณ์ของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) นาย Jerome Powell ในวันอังคาร ก่อนถึงการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ในวันพุธ
RBNZ คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (OCR) ไว้ที่ 5.50% ในการประชุมของเดือนกรกฎาคมในวันพุธ แม้ว่าจะมีสัญญาณของกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่อ่อนแอลงในนิวซีแลนด์ ซึ่งเทรดเดอร์จะใช้สัญญาณเพิ่มเติมจากคําแถลงนโยบายการเงินนี้ โดยท่าทีที่แข็งกร้าวของ RBNZ อาจหนุนค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ในระยะสั้นนี้ได้
ในทางกลับกัน การเก็งที่มากขึ้นว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ในปีนี้ทําให้เกิดแรงกดดันในการขายสกุลเงินดอลลาร์ จากข้อมูลของเครื่องมือ CME FedWatch Tool ในตอนนี้เทรดเดอร์กําลังประเมินราคาในโอกาสเกือบ 76% ที่จะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยเฟดในเดือนกันยายน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากที่ 64% ที่บันทึกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ด้านข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สําหรับเดือนมิถุนายนอาจให้สัญญาณบางอย่างเกี่ยวกับแนวโน้มทิศทางของเงินเฟ้อในสหรัฐอเมริกาได้ โดยอัตราเงินเฟ้อ CPI ของสหรัฐฯ คาดว่าจะลดลงมาเป็น 3.1% YoY ในเดือนมิถุนายน จากที่ 3.3% ในเดือนพฤษภาคม ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานคาดว่าจะทรงตัวที่ 3.4% YoY ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ ซึ่งสัญญาณใด ๆ ของอัตราเงินเฟ้อที่เย็นตัวลงในสหรัฐฯ อาจยิ่งกดดันค่าเงิน USD ให้ต่ำลงและเป็นแรงหนุนสําหรับคู่เงิน NZD/USD ได้
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์
ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD
การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง
ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า