นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนวันศุกร์ที่ 28 มิถุนายน:
ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐทรงตัวที่ประมาณ 106.00 ในช่วงเช้าวันศุกร์ ราคาเคลื่อนไหวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบหลายสัปดาห์ที่เกิดขึ้นในสัปดาห์นี้ สํานักงานวิเคราะห์เศรษฐกิจ (BEA) จะเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) สําหรับเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ใช้อ้างอิง ควบคู่ไปกับการประกาศข้อมูลการใช้จ่ายส่วนบุคคล และรายได้ส่วนบุคคลในช่วงท้ายของวันตามเวลาเอเชีย
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์์นิวซีแลนด์
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | -0.09% | -0.03% | 0.72% | 0.15% | 0.12% | 0.87% | 0.58% | |
EUR | 0.09% | 0.08% | 0.90% | 0.29% | 0.23% | 1.00% | 0.74% | |
GBP | 0.03% | -0.08% | 0.75% | 0.21% | 0.15% | 0.92% | 0.66% | |
JPY | -0.72% | -0.90% | -0.75% | -0.57% | -0.57% | 0.18% | -0.15% | |
CAD | -0.15% | -0.29% | -0.21% | 0.57% | -0.03% | 0.71% | 0.46% | |
AUD | -0.12% | -0.23% | -0.15% | 0.57% | 0.03% | 0.77% | 0.51% | |
NZD | -0.87% | -1.00% | -0.92% | -0.18% | -0.71% | -0.77% | -0.26% | |
CHF | -0.58% | -0.74% | -0.66% | 0.15% | -0.46% | -0.51% | 0.26% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).
ในช่วงสุดสัปดาห์นี้ จะมีการเลือกตั้งฝรั่งเศสรอบแรก จากผลสํารวจ ล่าสุดของ IFOP พบว่าพรรค National Rally ของ Marine Le Pen เป็นผู้นําในรอบแรกด้วยคะแนนเสียง 36% ในขณะที่ประธานาธิบดี Emmanuel Macron อยู่ในอันดับที่สามด้วยคะแนนเสียง 21% ตามหลัง New Popular Front ฝั่งซ้ายซึ่งคาดว่าจะได้รับคะแนนเสียง 29%
ดัชนีหุ้นตลาดหุ้นหลักในสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดีทำราคาปิดเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เนื่องจากนักลงทุนเว้นจากการวางออเดอร์ขนาดใหญ่ก่อนการอภิปรายประธานาธิบดีครั้งแรกในสหรัฐอเมริกา ในช่วงเช้าวันศุกร์ดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ฟิวเจอร์สเคลื่อนไหวสูงขึ้นเล็กน้อย และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีผันผวนในกรอบราคาแคบๆ ที่ประมาณ 4.3%
ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันศุกร์ ข้อมูลจากสหราชอาณาจักรระบุว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศในไตรมาสแรกเติบโตในอัตรา 0.3% ต่อปี ตัวเลขนี้สูงกว่าตัวเลขประมาณการก่อนหน้านี้ และที่ตลาดคาดการณ์ไว้ 0.2% หลังจากปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันพฤหัสบดี GBPUSD พยายามดิ้นรนเพื่อฟื้นตัวขึ้นต่อ และเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า 1.2650
ในวันพฤหัสบดี EURUSD ปรับตัวลดลงติดต่อกันสองวัน แต่เสียโมเมนตัมขาขึ้น ในช่วงเช้าวันศุกร์ ทั้งคู่ผันผวนในกรอบราคาแคบๆ ต่ำกว่า 1.0700 เล็กน้อย
เมื่อเทียบเป็นรายปี ข้อมูลจากญี่ปุ่นระบุว่าดัชนีราคาผู้บริโภคโตเกียวเพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนมิถุนายน ตัวเลขนี้ออกมาหลังจากเพิ่มขึ้น 2.2% ที่บันทึกไว้ในเดือนเมษายน นอกจากนี้ อัตราการว่างงานทรงตัวที่ 2.6% ในเดือนพ.ค. ตามการคาดการณ์ USDJPY ปรับตัวขึ้นต่อในกราฟรายสัปดาห์ และแตะระดับสูงสุดในรอบหลายทศวรรษใกล้ 161.30 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชีย ดูเหมือนว่าทั้งคู่จะเข้าสู่การปรับฐานฐานที่ประมาณ 161.00 หลังจากการกระโดดขึ้นก่อนหน้านี้ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีของญี่ปุ่นนาย Yoshimasa Hayashi ย้ำเมื่อวันศุกร์ว่าพวกเขาจะดําเนินการอย่างเหมาะสมหากตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศผันผวนมากเกินไป
หลังจากทดสอบ $2,300 ในวันพุธ ทองคําก็ฟื้นกลับมา และปรับตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่งในวันพฤหัสบดี XAUUSD ค่อนข้างเงียบ และเคลื่อนไหวเหนือ $2,320 ในช่วงเช้าของตลาดยุโรปวันศุกร์
อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่เป็นตัวอ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง
แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้าประเทศเพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรเพื่อฝากเงินของพวกเขา
ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ใจปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ
อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น