ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันศุกร์ คู่ USDCAD ยังคงอยู่ภายใต้แรงขายที่บริเวณ 1.3690 ราคาขยับลงแม้ว่าดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) จะขยับขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 4 วันใกล้ 105.70 การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบยังคงหนุน CAD สกุลเงินที่อ้างอิงมูลค่ากับสินค้าโภคภัณฑ์ ในวันศุกร์ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับการประกาศข้อมูลดัชนี PMI ภาคการผลิตและภาคบริการจาก S&P Global ของสหรัฐฯ
ตามรายงานของรอยเตอร์ ผู้กําหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ได้เลื่อนกําหนดเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในปีนี้ออกไป โทมัส บาร์กิ้น (Tom Barkin) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาริชมอนด์กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดีว่าธนาคารกลางอยู่ในอยู่ในจุดที่ดี มีทรัพย์กรที่จําเป็นสําหรับการจัดการเงินเฟ้อ แต่ยังต้องการทราบข้อมูลในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ามากขึ้น ในขณะเดียวกัน นายนีล คัชการี (Neel Kashkari) ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขามินนิอาโปลิสกล่าวว่าอาจต้องใช้เวลาหนึ่งหรือสองปีในการทําให้อัตราเงินเฟ้อกลับมาที่ 2%
ตามรายงานของ CME FedWatch Tool นักลงทุนเชื่อว่ามีโอกาสประมาณ 10% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนกรกฎาคม คาดการณ์เดือนกันยายนนั้นเพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 70% และเชื่อ 100% ว่าจะมีการลดดอกเบี้ยในเดือนพฤศจิกายน แม้ว่ายอดค้าปลีกล่าสุดของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วจะกระตุ้นความคาดหวังว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยสองครั้งจากเฟดในปีนี้ แต่แนวทางการดำเนินนโยบายที่ขึ้นอยู่กับข้อมูลเข้มงวดจากเจ้าหน้าที่เฟดอาจจํากัดไม่ให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง
ด้านสกุลเงิน CAD ตลาดน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเพราะความหวังครั้งใหม่เกี่ยวกับความต้องการเชื้อเพลิงเพิ่มขึ้นในช่วงฤดูร้อน เป็นที่น่าสังเกตว่าราคาน้ำมันที่สูงขึ้นอาจหนุนดอลลาร์แคนาดา (CAD) เนื่องจากแคนาดาเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ไปยังสหรัฐอเมริกา
นอกจากนี้ ธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงสู่ระดับ 4.75% จาก 5% เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งแรกในรอบ 4 ปี บทสรุปการพิจารณาของ BoC เมื่อวันพุธระบุถึงความเสี่ยงของการลดดอกเบี้ยเร็วเกินไปเทียบกับอันตรายจากการรอนานเกินไป ทิฟฟ์ แมคเล็ม (Tiff Macklem) ผู้ว่าการ BoC กล่าวว่า "สมเหตุสมผล" ที่จะคาดหวังการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม แต่การลดอัตราดอกเบี้ยน่าจะดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป