นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน:
ในวันศุกร์ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ยังคงถูกเทขาย เนื่องจากตลาดประเมินการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เรียบร้อยแล้ว ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้จะมีประกาศข้อมูลดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานําเข้าในเดือนพฤษภาคม ในช่วงท้ายของตลาดลงทุนอเมริกา มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะประกาศข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นในเดือนมิถุนายน
ในการประชุมเดือนมิถุนายน BoJ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0% เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อย่างกว้างขวาง BoJ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ กับโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) มูลค่า 6 ล้านล้านเยน (38.14 พันล้านดอลลาร์) ต่อเดือนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางฯ ประกาศว่าจะจัดประชุม กับนักลงทุนตลาดตราสารหนี้และตัดสินใจเกี่ยวกับแผนลดการซื้อพันธบัตรที่เฉพาะรุ่น 1-2 ปีข้างหน้าในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป (ในเดือนกรกฎาคม) ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นนายคาซูโอะ อูเอดะ (Kazuo Ueda) อธิบายว่าสิ่งสําคัญคือต้องลดการซื้อ JGB ในลักษณะที่คาดการณ์ได้ ในขณะเดียวกัน ก็รับประกันว่าจะมีความยืดหยุ่นและคํานึงถึงเสถียรภาพในตลาดตราสารหนี้
ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของเยนญี่ปุ่น (JPY) เทียบกับสกุลเงินหลักที่แสดงในวันนี้ เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
USD | EUR | GBP | JPY | CAD | AUD | NZD | CHF | |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
USD | 0.18% | 0.28% | 0.68% | 0.05% | 0.29% | 0.51% | 0.06% | |
EUR | -0.18% | 0.10% | 0.58% | -0.15% | 0.09% | 0.31% | -0.12% | |
GBP | -0.28% | -0.10% | 0.46% | -0.23% | 0.02% | 0.21% | -0.21% | |
JPY | -0.68% | -0.58% | -0.46% | -0.65% | -0.41% | -0.22% | -0.62% | |
CAD | -0.05% | 0.15% | 0.23% | 0.65% | 0.25% | 0.44% | 0.00% | |
AUD | -0.29% | -0.09% | -0.02% | 0.41% | -0.25% | 0.21% | -0.24% | |
NZD | -0.51% | -0.31% | -0.21% | 0.22% | -0.44% | -0.21% | -0.42% | |
CHF | -0.06% | 0.12% | 0.21% | 0.62% | -0.01% | 0.24% | 0.42% |
แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักซึ่งกันและกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้ายในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกเงินเยนญี่ปุ่นจากคอลัมน์ด้านซ้ายและเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยังดอลลาร์สหรัฐ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงเป็น JPY (สกุลเงินหลัก)/USD (สกุลเงินรอง)
USDJPY สะสมกำลังขาขึ้นหลังจากการประชุม BoJ และล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.6% เคลื่อนไหวในวันนี้ที่ประมาณ 158.00 สะท้อนให้เห็นถึงแรงขายเงินเยนในวงกว้าง EUR/JPY เพิ่มขึ้น 0.4% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 169.30
ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง ก่อนหน้านี้ USD ได้อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วหลังประกาศข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธที่ลดลง บรรยากาศของตลาดที่ไม่ชอบความเสี่ยง การที่ JPY อ่อนค่าลดลงอย่างรวดเร็ว และสกุลเงินยุโรปที่ไม่มีใครต้องการท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองดูเหมือนจะช่วยให้ USD ได้เงินทุนไหลเข้ามาสนับสนุน ในขณะที่เขียนข่าวนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 0.25% เคลื่อนไหวในวันนี้ใกล้ 105.50
ในตลาดลงทุนยุโรป EURUSD อยู่ภายใต้แรงกดดันขาลงอย่างหนัก และลดลงสู่ 1.0700
หลังจากปรับตัวขึ้นมาสามวันติดต่อกัน ในวันพฤหัสบดี GBPUSD ยังคงปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันศุกร์ และล่าสุดเห็นเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า 1.2750
แม้ว่า USD จะแข็งค่าขึ้นในวงกว้าง แต่ XAUUSD ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ มาเคลื่อนที่อยู่ประมาณ 2,310 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าทองคําจะได้รับอานิสงส์จากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์
ในโลกของศัพท์ทางการเงิน มักจะมีคําที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสองคํา "risk-on" และ "risk off" สองคำนี้หมายถึงระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนเต็มใจที่จะยอมรับในช่วงเวลาที่อ้างอิง ในตลาดลงทุนที่ "เปิดรับความเสี่ยง" คือสิ่งที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคต และเต็มใจที่จะซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง" นักลงทุนเริ่ม 'ลงทุนอย่างปลอดภัย' เพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นจึงซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งมีความแน่นอนมากขึ้นในการให้ผลตอบแทนแม้ว่าจะค่อนทำกำไรได้น้อยก็ตาม
โดยปกติในช่วงที่ตลาดลงทุน "มีความเสี่ยง" ตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่เข้าพอร์ต ทองคําก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้เช่นกันเนื่องจากได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตที่มีมากขึ้น สกุลเงินของประเทศที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์จํานวนมากจะแข็งแกร่งขึ้นเเพราะความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น สกุลเงินดิจิทัลก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง" พันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลชื่อดัง ทองคําได้รับความนิยม และสกุลเงินที่ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย เช่น เยนญี่ปุ่น ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐ ล้วนได้รับประโยชน์
ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) และสกุลเงินรองลงมา เช่น รูเบิล (RUB) และแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) ล้วนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในตลาดที่ "เปิดรับความเสี่ยง" นี่เป็นเพราะเศรษฐกิจของสกุลเงินเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมากเพื่อการเติบโต และสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาในช่วงที่ตลาดกล้าเปิดรับความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการวัตถุดิบมากขึ้นในอนาคตเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น
สกุลเงินหลักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่ "ปิดรับความเสี่ยง" ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสํารองของโลกและเพราะในช่วงวิกฤต นักลงทุนจะซื้อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าปลอดภัยเพราะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกาไม่น่าจะผิดนัดชําระหนี้ เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเพราะมีความต้องการพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมากขึ้น สาเหตุนั้นเป็นเพราะนักลงทุนในประเทศที่ถือหุ้นด้วยสัดส่วนที่สูงไม่น่าจะทิ้งพันธบัตรเหล่านี้แม้อยู่ในภาวะวิกฤต ฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นเพราะกฎหมายการธนาคารของสวิสที่เข้มงวดช่วยให้นักลงทุนได้รับการคุ้มครองเงินทุนมากขึ้น