tradingkey.logo

ฟอเร็กซ์วันนี้: เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าลงเนื่องจาก BoJ คงนโยบายการเงินไว้ดังเดิม

14 มิ.ย. 2024 เวลา 8:03

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนวันศุกร์ที่ 14 มิถุนายน:

ในวันศุกร์ เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ยังคงถูกเทขาย เนื่องจากตลาดประเมินการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) เรียบร้อยแล้ว ปฏิทินเศรษฐกิจสหรัฐฯ วันนี้จะมีประกาศข้อมูลดัชนีราคาส่งออกและดัชนีราคานําเข้าในเดือนพฤษภาคม ในช่วงท้ายของตลาดลงทุนอเมริกา มหาวิทยาลัยมิชิแกนจะประกาศข้อมูลดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นในเดือนมิถุนายน

ในการประชุมเดือนมิถุนายน BoJ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0% เป็นครั้งที่สองติดต่อกัน เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อย่างกว้างขวาง BoJ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงใดๆ กับโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่น (JGB) มูลค่า 6 ล้านล้านเยน (38.14 พันล้านดอลลาร์) ต่อเดือนเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางฯ ประกาศว่าจะจัดประชุม กับนักลงทุนตลาดตราสารหนี้และตัดสินใจเกี่ยวกับแผนลดการซื้อพันธบัตรที่เฉพาะรุ่น 1-2 ปีข้างหน้าในการประชุมนโยบายครั้งต่อไป (ในเดือนกรกฎาคม) ในการแถลงข่าวหลังการประชุม ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่นนายคาซูโอะ อูเอดะ (Kazuo Ueda) อธิบายว่าสิ่งสําคัญคือต้องลดการซื้อ JGB ในลักษณะที่คาดการณ์ได้ ในขณะเดียวกัน ก็รับประกันว่าจะมีความยืดหยุ่นและคํานึงถึงเสถียรภาพในตลาดตราสารหนี้

ราคาเงินเยนญี่ปุ่นวันนี้

ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของเยนญี่ปุ่น (JPY) เทียบกับสกุลเงินหลักที่แสดงในวันนี้ เงินเยนของญี่ปุ่นอ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ

 
  USD EUR GBP JPY CAD AUD NZD CHF
USD   0.18% 0.28% 0.68% 0.05% 0.29% 0.51% 0.06%
EUR -0.18%   0.10% 0.58% -0.15% 0.09% 0.31% -0.12%
GBP -0.28% -0.10%   0.46% -0.23% 0.02% 0.21% -0.21%
JPY -0.68% -0.58% -0.46%   -0.65% -0.41% -0.22% -0.62%
CAD -0.05% 0.15% 0.23% 0.65%   0.25% 0.44% 0.00%
AUD -0.29% -0.09% -0.02% 0.41% -0.25%   0.21% -0.24%
NZD -0.51% -0.31% -0.21% 0.22% -0.44% -0.21%   -0.42%
CHF -0.06% 0.12% 0.21% 0.62% -0.01% 0.24% 0.42%  

แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักซึ่งกันและกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้ายในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือกเงินเยนญี่ปุ่นจากคอลัมน์ด้านซ้ายและเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยังดอลลาร์สหรัฐ เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงเป็น JPY (สกุลเงินหลัก)/USD (สกุลเงินรอง)

USDJPY สะสมกำลังขาขึ้นหลังจากการประชุม BoJ และล่าสุดเพิ่มขึ้น 0.6% เคลื่อนไหวในวันนี้ที่ประมาณ 158.00 สะท้อนให้เห็นถึงแรงขายเงินเยนในวงกว้าง EUR/JPY เพิ่มขึ้น 0.4% เคลื่อนไหวอยู่ที่ 169.30

ในขณะเดียวกัน ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ยังคงแข็งแกร่งเมื่อเทียบกับสกุลเงินคู่แข่ง ก่อนหน้านี้ USD ได้อ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วหลังประกาศข้อมูลเงินเฟ้อในวันพุธที่ลดลง บรรยากาศของตลาดที่ไม่ชอบความเสี่ยง การที่ JPY อ่อนค่าลดลงอย่างรวดเร็ว และสกุลเงินยุโรปที่ไม่มีใครต้องการท่ามกลางความวุ่นวายทางการเมืองดูเหมือนจะช่วยให้ USD ได้เงินทุนไหลเข้ามาสนับสนุน ในขณะที่เขียนข่าวนี้ ดัชนีดอลลาร์สหรัฐเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับสูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 0.25% เคลื่อนไหวในวันนี้ใกล้ 105.50

ในตลาดลงทุนยุโรป EURUSD อยู่ภายใต้แรงกดดันขาลงอย่างหนัก และลดลงสู่ 1.0700

หลังจากปรับตัวขึ้นมาสามวันติดต่อกัน ในวันพฤหัสบดี GBPUSD ยังคงปรับตัวลดลงในช่วงเช้าวันศุกร์ และล่าสุดเห็นเคลื่อนไหวอยู่ต่ำกว่า 1.2750

แม้ว่า USD จะแข็งค่าขึ้นในวงกว้าง แต่ XAUUSD ก็ยังคงเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ มาเคลื่อนที่อยู่ประมาณ 2,310 ดอลลาร์ ดูเหมือนว่าทองคําจะได้รับอานิสงส์จากการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงก่อนวันหยุดสุดสัปดาห์

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตลาดที่มีต่อความเสี่ยง

คําว่า 'risk-on' และ 'risk-off' หมายถึงอะไรเมื่อพูดถึงความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน?

ในโลกของศัพท์ทางการเงิน มักจะมีคําที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสองคํา "risk-on" และ "risk off" สองคำนี้หมายถึงระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนเต็มใจที่จะยอมรับในช่วงเวลาที่อ้างอิง ในตลาดลงทุนที่ "เปิดรับความเสี่ยง" คือสิ่งที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคต และเต็มใจที่จะซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง" นักลงทุนเริ่ม 'ลงทุนอย่างปลอดภัย' เพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นจึงซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งมีความแน่นอนมากขึ้นในการให้ผลตอบแทนแม้ว่าจะค่อนทำกำไรได้น้อยก็ตาม

สินทรัพย์หลักที่ต้องติดตามเพื่อทําความเข้าใจว่าความมั่นใจของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปมีตัวไหนบ้าง?

โดยปกติในช่วงที่ตลาดลงทุน "มีความเสี่ยง" ตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่เข้าพอร์ต ทองคําก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้เช่นกันเนื่องจากได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตที่มีมากขึ้น สกุลเงินของประเทศที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์จํานวนมากจะแข็งแกร่งขึ้นเเพราะความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น สกุลเงินดิจิทัลก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง" พันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลชื่อดัง ทองคําได้รับความนิยม และสกุลเงินที่ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย เช่น เยนญี่ปุ่น ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐ ล้วนได้รับประโยชน์

สกุลเงินใดแข็งค่าขึ้นเมื่อนักลงทุน 'เปิดรับความเสี่ยง'?

ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) และสกุลเงินรองลงมา เช่น รูเบิล (RUB) และแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) ล้วนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในตลาดที่ "เปิดรับความเสี่ยง" นี่เป็นเพราะเศรษฐกิจของสกุลเงินเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมากเพื่อการเติบโต และสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาในช่วงที่ตลาดกล้าเปิดรับความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการวัตถุดิบมากขึ้นในอนาคตเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

สกุลเงินใดแข็งค่าขึ้นเมื่อนักลงทุน 'ปิดรับความเสี่ยง'?

สกุลเงินหลักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่ "ปิดรับความเสี่ยง" ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสํารองของโลกและเพราะในช่วงวิกฤต นักลงทุนจะซื้อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าปลอดภัยเพราะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกาไม่น่าจะผิดนัดชําระหนี้ เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเพราะมีความต้องการพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมากขึ้น สาเหตุนั้นเป็นเพราะนักลงทุนในประเทศที่ถือหุ้นด้วยสัดส่วนที่สูงไม่น่าจะทิ้งพันธบัตรเหล่านี้แม้อยู่ในภาวะวิกฤต ฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นเพราะกฎหมายการธนาคารของสวิสที่เข้มงวดช่วยให้นักลงทุนได้รับการคุ้มครองเงินทุนมากขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI