tradingkey.logo

“เฟดมีความคืบหน้าอย่างมาก แต่อัตราเงินเฟ้อยังคงไม่ยอมลง” - ประธานเฟดสาขาบอสตัน

19 มิ.ย. 2024 เวลา 5:00

ซูซาน คอลลินส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) สาขาบอสตัน กล่าวเมื่อวันอังคารว่า แม้เฟดจะมีความคืบหน้าอย่างมากเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อและนโยบายการเงินของเฟด แต่ก็ยังมีงานอีกมากที่ต้องทํา ประธานเฟดบอสตันคอลลินส์ตั้งข้อสังเกตว่าอัตราเงินเฟ้อยังคงสูง ไม่ยอมลง และมีแนวโน้มที่จะต้องใช้เวลามากกว่าที่หลายคนหวังว่าจะทําให้การเติบโตของราคากลับลงสู่เป้าหมาย 2% ของเฟด

ผู้กําหนดนโยบายของเฟดประเมินข้อมูลเงินเฟ้อและตัดสินใจทิศทางในอนาคต

ไฮไลท์สําคัญ

ประธานเฟดคอลลินส์: ฉันระมัดระวังว่าจะไม่ตอบสนองต่อข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดมากเกินไป

ฉันยังคงมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายการเงิน

ยังเร็วเกินไปที่จะบอกว่าอัตราเงินเฟ้อกําลังถอยกลับเป็น 2% อีกครั้งหรือไม่

เศรษฐกิจสามารถฟื้นตัวกลับมาได้อย่างน่าทึ่ง

อัตราเงินเฟ้อยังคงสูงกว่าเป้าหมาย 2% และไม่ยอมลง

ข้อมูลเงินเฟ้อล่าสุดเป็นเรื่องที่น่ายินดี

ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีความคืบหน้าอย่างมากในการลดอัตราเงินเฟ้อ

เป็นการเหมาะสมที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงมีความอดทนต่อนโยบายการเงิน

เงินเฟ้อ: คำถามที่พบบ่อย

อัตราเงินเฟ้อคืออะไร?

อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่เป็นตัวอ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คืออะไร?

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง

อัตราเงินเฟ้อมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างไร?

แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกไหลเข้าประเทศเพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรเพื่อฝากเงินของพวกเขา

อัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร?

ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ใจปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้นเพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น
 

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI