tradingkey.logo

คาดการณ์ราคา WTI: ทดสอบแนวต้าน EMA 50 วันหลังจากทะลุเหนือ $63.50

FXStreet24 ก.ย. 2025 เวลา 8:12
  • ราคาน้ำมัน WTI ทดสอบแนวต้านแรกที่เส้น EMA 50 วันที่ 63.67 ดอลลาร์
  • ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันอยู่เหนือระดับ 50 ส่งสัญญาณว่ายังเป็นขาขึ้น
  • แนวรับเบื้องต้นปรากฏที่เส้น EMA เก้าวันที่ 63.14 ดอลลาร์

ในตลาดลงทุนยุโรปวันพุธ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) เพิ่มขึ้นต่อเป็นวันที่สองติดต่อกัน เคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 63.60 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล กราฟรายวันทางเทคนิคแสดงให้เห็นว่าราคาน้ำมันยังคงอยู่ในรูปแบบสี่เหลี่ยม ชี้ให้เห็นกรอบการปรับฐาน

อินดิเคเตอร์ความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันอยู่เหนือระดับ 50 เล็กน้อย หมายความว่าราคาเป็นแนวโน้มขาขึ้น นอกจากนี้ ราคาน้ำมัน WTI ได้เคลื่อนตัวเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) เก้าวัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมราคาระยะสั้นมีความแข็งแกร่งมากขึ้น

ราคาน้ำมัน WTI กำลังทดสอบแนวต้านแรกที่เส้น EMA 50 วันที่ 63.67 ดอลลาร์ โดยมีขอบด้านบนของสี่เหลี่ยมอยู่ที่ประมาณ 65.70 ดอลลาร์ การทะลุเหนือกรอบสี่เหลี่ยมนี้จะทำให้เกิดแนวโน้มขาขึ้น และสนับสนุนราคาน้ำมันดิบให้ไปสำรวจพื้นที่รอบระดับสูงสุดในรอบห้าเดือนที่ 70.02 ดอลลาร์ ซึ่งถูกทำลายไปเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม

สำหรับขาลง ราคาน้ำมัน WTI จะพบแนวรับหลักที่เส้น EMA เก้าวันที่ 63.14 ดอลลาร์ การทะลุระดับนี้ลงไปจะทำให้โมเมนตัมราคาระยะสั้นอ่อนแอลง และทำให้เข้าใกล้ขอบด้านล่างของกรอบสี่เหลี่ยมที่ประมาณ 61.60 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนที่ 61.20 ดอลลาร์ ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 5 กันยายน

WTI: กราฟรายวัน

WTI Oil: คำถามที่พบบ่อย

น้ำมัน WTI เป็นน้ำมันดิบประเภทหนึ่งที่จําหน่ายในตลาดต่างประเทศ WTI ย่อมาจากเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต (West Texas Intermediate) ซึ่งเป็นหนึ่งในน้ำมันสามประเภทหลัก ได้แก่ Brent และ Dubai Crude และ WTI น้ำมันดิบ WTI เรียกอีกอย่างว่าน้ำมัน "เบา" และน้ำมัน "หวาน" เนื่องจากมีน้ำหนักและปริมาณกํามะถันค่อนข้างต่ำ ตามลําดับแล้ว WTI ถือเป็นน้ำมันคุณภาพสูงที่กลั่นได้ง่าย มีแหล่งที่มาในสหรัฐอเมริกาและจัดจําหน่ายผ่านศูนย์กลาง Cushing ซึ่งถือเป็น "เส้นทางเดินน้ำมันหลักของโลก" เป็นเกณฑ์มาตรฐานสําหรับตลาดน้ำมันและราคาของน้ำมัน WTI มักถูกอ้างอิงในสื่อต่างๆ

เช่นเดียวกับสินทรัพย์ทั้งหมด อุปสงค์และอุปทานเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของราคาน้ำมัน WTI ด้วยเหตุนี้ การเติบโตทั่วโลกจึงเป็นตัวขับเคลื่อนอุปสงค์น้ำมันให้เพิ่มขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจทั่วโลกที่อ่อนแอ มีความไม่มั่นคงทางการเมือง สงคราม และการคว่ำบาตรต่างๆ ปัจจัยเหล่านี้อาจสามารถกดดันอุปทาน และส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน นอกจากนี้ การตัดสินใจของกลุ่มโอเปก ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ เป็นอีกหนึ่งตัวขับเคลื่อนราคาที่สําคัญ และมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐก็มีอิทธิพลต่อราคาน้ำมันดิบ WTI เนื่องจากเป็นน้ำมันที่มีการซื้อขายด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นส่วนใหญ่ ดังนั้น เมื่อเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลง ก็อาจทําให้น้ำมันมีราคาถูกลงมากขึ้น และในทางกลับกันด้วยเช่นกัน

รายงานน้ำมันคงคลังรายสัปดาห์ที่ประกาศโดยสถานบันปิโตรเลียมของอเมริกา หรือ American Petroleum Institute (API) และสำนักงานข้อมูลเกี่ยวกับพลังงานหรือ Energy Information Agency (EIA) ส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน WTI ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังที่เปลี่ยนแปลงไปสะท้อนให้เห็นภาพอุปสงค์/อุปทานที่ผันผวน หากข้อมูลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าน้ำมันดิบคงคลังลดลง อาจหมายความว่าอุปสงค์น้ำมันเพิ่มขึ้น และผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น การที่ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสูงขึ้นสามารถสะท้อนให้เห็นอุปทานน้ำมันที่เพิ่มขึ้น รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของ API จะประกาศทุกวันอังคารและของ EIA จะประกาศในถัดไป ตัวเลขจากรายงานเหล่านี้มักจะคล้ายกัน อาจจะมีความแตกต่างกันเพียง 1% (มีโอกาสราว ๆ 75%) ข้อมูลจาก EIA ถือว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าเนื่องจากเป็นหน่วยงานของรัฐ

OPEC (หรือองค์การบริหารน้ำมันปิโตรเลียมของประเทศกลุ่มผู้ส่งออก - Organization of the Petroleum Exporting Countries) เป็นกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน 12 ประเทศที่ร่วมกันกําหนดโควตาการผลิตน้ำมันสําหรับประเทศสมาชิก มีการประชุมปีละสองครั้ง การตัดสินใจขององค์กรนี้มักส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมัน WTI เมื่อโอเปกตัดสินใจลดโควตาการผลิต นั่นอาจทําให้อุปทานน้ำมันตึงตัว ผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น แต่เมื่อโอเปกเพิ่มการผลิต ก็จะมีผลตรงกันข้าม OPEC+ หมายถึงกลุ่มประเทศสมาชิกนอกจากโอเปกดั้งเดิมเพิ่มอีกสิบประเทศ โดยประเทศที่มีอิทธิพลที่สุดก็คือรัสเซีย

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI