tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD ขึ้นลงใกล้ $33.50 หลังจากที่ลดลงมากกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์

FXStreet28 พ.ค. 2025 เวลา 2:57
  • ราคาโลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นหลังจากที่มีการขาดทุนมากกว่า 0.50% ในเซสชันก่อนหน้า
  • โลหะเงินที่มีการซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐลดลงเนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น
  • ความต้องการโลหะเงินในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอาจเพิ่มขึ้นท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้น

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ฟื้นตัวจากการขาดทุนล่าสุดที่เกิดขึ้นในเซสชันก่อนหน้า โดยมีการซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 33.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเช้าของวันพุธในเอเชีย อย่างไรก็ตาม โลหะมีค่า รวมถึงโลหะเงิน เผชิญกับแรงขายท่ามกลางการแข็งค่าของดอลลาร์สหรัฐ (USD)

โลหะเงินที่มีการซื้อขายในสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐสูญเสียความน่าสนใจไป เนื่องจากดอลลาร์สหรัฐที่สูงขึ้นทำให้มีราคาแพงสำหรับผู้ซื้อจากต่างประเทศ ดอลลาร์สหรัฐได้รับการสนับสนุนหลังจากที่ญี่ปุ่นได้แสดงสัญญาณถึงการลดการออกพันธบัตรรัฐบาล ซึ่งช่วยหนุนตลาดพันธบัตรทั่วโลกและกดดันอัตราผลตอบแทนของสหรัฐฯ ในขณะนี้ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและ 30 ปีอยู่ที่ 4.46% และ 4.97% ตามลำดับ

นอกจากนี้ ความต้องการโลหะเงินในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยลดลงเนื่องจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ (US) และสหภาพยุโรป (EU) ลดลง ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ขยายกำหนดเวลาการเก็บภาษีสำหรับการนำเข้าจากสหภาพยุโรปจากวันที่ 1 มิถุนายนเป็นวันที่ 9 กรกฎาคม ในวันจันทร์ เบลเยียมได้ตกลงที่จะเร่งการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ เพื่อหลีกเลี่ยงสงครามการค้าข้ามมหาสมุทรแอตแลนติก

อย่างไรก็ตาม โลหะเงินในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยกลับมีแนวโน้มดีขึ้นเนื่องจากความกลัวเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นท่ามกลางปัญหาหนี้ที่เพิ่มขึ้น ร่างกฎหมาย "One Big Beautiful Bill" ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กำลังจะถูกลงคะแนนเสียงในวุฒิสภา ร่างกฎหมายนี้คาดว่าจะทำให้การขาดดุลเพิ่มขึ้น 3.8 พันล้านดอลลาร์ เนื่องจากมีการเพิ่มข้อกำหนดใหม่ รวมถึงการลดภาษี การเพิ่มการใช้จ่าย และการเพิ่มเพดานหนี้ ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะยังคงสูงและทำให้ต้นทุนการกู้ยืมสูงขึ้นสำหรับผู้บริโภค ธุรกิจ และรัฐบาล

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI