tradingkey.logo

แม่ค้าเซเว่นอัพฮุบกิจการแม่ค้า Peet’s Coffee ก้าวสู่ “บริษัทกาแฟล้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก” โอกาสหรือกับดัก?

TradingKey
ผู้เขียนEsteban Ma
26 ส.ค. 2025 เวลา 9:13

TradingKey – เมื่อวันจันทร์ที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา บริษัทเครื่องดื่มรายใหญ่ของสหรัฐฯ Keurig Dr Pepper (KDP) ได้บรรลุข้อตกลงขั้นสุดท้ายในการเข้าซื้อกิจการ JDE Peet’s ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของแบรนด์กาแฟชื่อดัง Peet’s Coffee มูลค่า 15.7 พันล้านยูโร ผ่านการซื้อหุ้นทั้งหมดด้วยเงินสด แม้ KDP ตั้งเป้าที่จะสร้าง “บริษัทกาแฟล้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก” แต่การใช้วิธีระดมทุนด้วยหนี้กลับทำให้ S&P ออกคำเตือนการปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือ

ตามประกาศของทั้งสองบริษัท KDP จะเสนอซื้อหุ้น JDE Peet’s ในราคา 31.85 ยูโรต่อหุ้น คิดเป็นมูลค่าหุ้นรวม 15.7 พันล้านยูโร (ประมาณ 18.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) สูงกว่าราคาปิดเมื่อวันที่ 22 สิงหาคมถึง 20% และคาดว่าดีลจะปิดในช่วงครึ่งแรกของปี 2026

ปัจจุบัน KDP ครอบครองแบรนด์มากกว่า 125 แบรนด์ รวมถึง 7Up, Keurig, Dr Pepper และ怡泉(Schweppes China) ครอบคลุมตั้งแต่น้ำอัดลม กาแฟ น้ำผลไม้ ไปจนถึงชา Tim Cofer ซีอีโอของ KDP กล่าวว่า

“นี่คือโอกาสที่หาได้ยากในการสร้างบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านกาแฟระดับโลก”

KDP ยังประกาศว่า บริษัทมีแผนที่จะแยกกิจการออกเป็น 2 บริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ได้แก่ Beverage Co. (เน้นตลาดเครื่องดื่มอเมริกาเหนือ) และ Global Coffee Co. (บริษัทกาแฟล้วน)

สำหรับ KDP การเข้าซื้อกิจการ JDE Peet’s จะเสริมความแข็งแกร่งในตลาดกาแฟและเพิ่มความหลากหลายของพอร์ตสินค้า หลังการแยกกิจการ Global Coffee Co. คาดว่าจะมีรายได้สุทธิปีละ 16 พันล้านดอลลาร์ และสร้างผลประหยัดต้นทุน (synergy) ราว 400 ล้านดอลลาร์ ภายใน 3 ปี ทำให้ขึ้นแท่น “บริษัทกาแฟล้วนที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

ตามข้อมูลของ KDP ปัจจุบันตลาดกาแฟทั่วโลกมีมูลค่ารวมกว่า 400 พันล้านดอลลาร์ โดยรายได้ของ Global Coffee จะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของโลกในกลุ่ม “บริษัทกาแฟล้วน” และหากนับรวมตลาด “กาแฟสำหรับบริโภคในบ้าน” จะเป็นรองเพียง Nestlé แต่ทิ้งห่าง Starbucks อย่างมาก

อย่างไรก็ตาม เส้นทางสู่เป้าหมายนี้ไม่ง่าย หลังการประกาศข่าว หุ้นของ KDP ร่วง 11.48% มาปิดที่ 31.10 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่มีนาคม 2020 ขณะที่ Deutsche Bank ปรับลดราคาเป้าหมายจาก 40 เหรียญ ลงมาอยู่ที่ 38 เหรียญ

ด้าน S&P Ratings ระบุว่า เนื่องจาก KDP มีแผนก่อหนี้จำนวนมากเพื่อใช้เป็นทุนสำหรับดีลนี้ จึงอยู่ระหว่างพิจารณาปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือจาก BBB ลงไปที่ระดับต่ำสุดของ investment grade (BBB-)

KDP เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทได้กู้เงินสะพาน (bridge loan) มูลค่า 16.2 พันล้านยูโร (ประมาณ 19 พันล้านดอลลาร์) จาก Morgan Stanley และ Mitsubishi UFJ Financial Group และอาจต้องทำการรีไฟแนนซ์ในภายหลัง

ณ สิ้นไตรมาส 2 KDP มีหนี้รวม 17.7 พันล้านดอลลาร์ หากอันดับเครดิตถูกปรับลด ต้นทุนการกู้ยืมของบริษัทจะสูงขึ้นอีก

ลิงค์เดิม

เนื้อหานี้แปลโดย AI ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดจากข้อจำกัดทางเทคโนโลยีและภาษา จึงไม่สามารถรับประกันความถูกต้อง และความสมบูรณ์ของเนื้อหาได้ทั้งหมด ในการนำข้อมูลไปใช้ โปรดอ้างอิงจากต้นฉบับ และใช้วิจารณญาณประกอบการตัดสินใจ ทั้งนี้ บริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายหรือความเข้าใจผิดใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เนื้อหาดังกล่าว

ตรวจสอบโดยHuanyao Fang
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI