TradingKey - ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์กำลังเมินคำเตือนจากธนาคารกลางและมุ่งมั่นผลักดันแผนภาษีสินค้าต่อแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งจะมีผลบังคับใช้เป็นทางการหลังวันที่ 4 มีนาคม
ในวันจันทร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ ตามเวลาตะวันออก ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่าแผนการกำหนดภาษีสินค้าต่อเม็กซิโกและแคนาดาจะดำเนินไปตามกำหนด โดยกล่าวว่า "สหรัฐฯ ถูกเอาเปรียบโดยต่างประเทศในเกือบทุกด้าน และได้รับการปฏิบัติที่แย่มากจากคู่ค้าทางการค้ามากมาย"
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ได้ลงนามในคำสั่งบริหารที่กำหนดภาษีสินค้า 25% สำหรับสินค้าที่นำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดา โดยเขาได้ระบุว่าคำสั่งบริหารดังกล่าวมีพื้นฐานมาจากความล้มเหลวของเม็กซิโกและแคนาดาในการควบคุมอาชญากรรมและการค้ายาเสพติดที่ชายแดนกับสหรัฐฯ
สองวันต่อมา หลังจากที่ประธานาธิบดีเม็กซิโก López Obrador และนายกรัฐมนตรีแคนาดา Trudeau มุ่งมั่นที่จะเสริมความพยายามในด้านนี้ ทรัมป์จึงตัดสินใจระงับภาษีใหม่และประกาศเลื่อนการบังคับใช้มาตรการภาษีออกไป 30 วัน ซึ่งจะมีผลหลังวันที่ 4 มีนาคม
นับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ทรัมป์ได้กำหนดภาษีต่อหลายประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจีน สหภาพยุโรป เม็กซิโก และแคนาดา ส่งผลให้เกิดความไม่พอใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก ในบรรดาผู้แสดงความกังวลมี Charles Evans ประธานธนาคารกลางสหรัฐในชิคาโกและเป็นสมาชิกผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนในคณะกรรมการ FOMC ประจำปี 2025 ซึ่งเตือนว่า "การกำหนดภาษีในระดับใหญ่สามารถทำให้เกิดแรงช็อกในห่วงโซ่อุปทานอย่างรุนแรงและทำให้เงินเฟ้อทวีความรุนแรงขึ้น"