Investing.com - สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่แข็งค่าขึ้นในวันนี้ เนื่องจากความต้องการรับความเสี่ยงเพิ่มขึ้นหลังจากประธานาธิบดีสหรัฐโดนัลด์ ทรัมป์ สนับสนุนข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน อย่างไรก็ตาม เทรดเดอร์ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่ยังคงสูง
เงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงจากความต้องการสินทรัพย์ปลอดภัยที่เพิ่มขึ้น หลังได้รับแรงหนุนเพียงเล็กน้อยจากข้อมูลเงินเฟ้อ CPI ที่ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยอาจยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
สกุลเงินที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัยอย่างเงินเยนก็อ่อนค่าลงเช่นกัน โดยแทบไม่ได้รับแรงสนับสนุนจากข้อมูลเงินเฟ้อ PPI ที่ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์เลย ทั้งนี้ คู่สกุลเงิน USD/JPY ทรงตัวหลังจากพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในคืนก่อนหน้า
เงินหยวนจีนทรงตัว โดยคู่สกุลเงิน USD/CNY ยังคงเคลื่อนไหวรอบระดับ 7.3 หยวน หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal รายงานว่าปักกิ่งได้เสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทรัมป์ผลักดันข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัสเซียและยูเครน
ทรัมป์กล่าวในวันนี้ว่า เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย และประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน โดยทั้งสองฝ่ายต่างแสดงความต้องการสันติภาพ
ประธานาธิบดีสหรัฐระบุว่า เขาได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ระดับสูงเริ่มการเจรจาสันติภาพแล้ว
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ พีท เฮกเซธ ระบุว่ายูเครนจะไม่ขอเข้าร่วมเป็นสมาชิก NATO อีกต่อไป และจะไม่พยายามทวงคืนดินแดนที่รัสเซียยึดไป
เหตุการณ์ดังกล่าวได้ช่วยเพิ่มความหวังว่าสงครามที่ยืดเยื้อมาเกือบสามปี ซึ่งส่งผลกระทบต่อการค้าทั่วโลกและก่อให้เกิดวิกฤติพลังงานในยุโรป อาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดแล้ว
ความเชื่อมั่นที่ดีขึ้นก็ยังกระตุ้นให้ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน
เงินดอลลาร์ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ความต้องการสินทนัพย์เสี่ยงในภูมิภาค ปรับตัวขึ้น โดยคู่สกุลเงิน AUD/USD เพิ่มขึ้น 0.1%
เงินวอนเกาหลีใต้แข็งค่าขึ้น โดยคู่สกุลเงิน USD/KRW ลดลง 0.2% ขณะที่เงินดอลลาร์สิงคโปร์อ่อนค่าลงเล็กน้อย โดยคู่สกุลเงิน USD/SGD ปรับขึ้น 0.3%
เงินรูปีอินเดียแข็งค่าขึ้นเล็กน้อย โดยคู่สกุลเงิน USD/INR ลดลง 0.1% ต่อเนื่องจากการอ่อนค่าลงอย่างรวดเร็วเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางอินเดียดูเหมือนจะเข้าแทรกแซงตลาดเงินตราเพื่อพยุงค่าเงินรูปีไม่ให้ทำสถิติอ่อนค่ามากที่สุดเมื่อเทียบกับดอลลาร์
เงินดอลลาร์อ่อนค่าหลังความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงเพิ่มขึ้น
ดัชนีดอลลาร์ และ ดัชนีดอลลาร์ฟิวเจอร์ส ลดลง 0.4% และ 0.3% ตามลำดับ ขยายการลดลงจากเมื่อคืนก่อนหน้า
ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ถูกกดดันจากความต้องการสินทรัพย์เสี่ยงที่เพิ่มขึ้นหลังจากคำกล่าวของทรัมป์เกี่ยวกับสันติภาพรัสเซีย-ยูเครน
ส่งผลให้เงินดอลลาร์แทบไม่ได้รับแรงหนุนจากข้อมูล CPI ที่ออกมาสูงกว่าการคาดการณ์เลย ซึ่งบ่งชี้ให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งมันไลดโอกาสในการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม
คำให้การของประธานธนาคารกลางสหรัฐเจอโรม พาวเวลล์ ก็ยังสนับสนุนมุมมองนี้ โดยระบุว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงอาจดำเนินต่อไป ซึ่งจะช่วยหนุนค่าเงินดอลลาร์และกดดันตลาดเอเชียในระยะยาว
เงินดอลลาร์ยังคงได้รับแรงหนุนจากนโยบายภาษีของทรัมป์ โดยค่าเงินแข็งค่าขึ้นอย่างมากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากทรัมป์กำหนดภาษีนำเข้าที่สูงขึ้นสำหรับโลหะ และขู่ว่าจะเพิ่มภาษีศุลกากรอีกในอนาคต