tradingkey.logo

กระทรวงการคลังเตรียมผ่อนปรนเงื่อนไขเงินหมื่น เฟส 3 รอเสนอคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจปลายกุมภาพันธ์ คาดว่าจะพร้อมใช้ในไตรมาส 2/68

TradingKey
ผู้เขียนTony
7 ก.พ. 2025 เวลา 9:52
  • รัฐบาลไทยเตรียมเปิดตัวโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ตในระยะที่ 3 ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2568
  • โครงการถูกปรับเงื่อนไขเพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้จ่ายได้สะดวกขึ้น โดยเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการหมุนเวียนของเม็ดเงิน
  • รัฐบาลร่วมมือกับสถาบันการเงินในการเชื่อมโยงระบบ เพื่อให้ระบบการชำระเงินปลอดภัยและมั่นคง

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ยืนยันว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต จะเดินหน้าในไตรมาสที่ 2 ปี 2568 โดยมีการเสนอรายละเอียดให้คณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่นำโดยนายกรัฐมนตรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พิจารณาในเดือนกุมภาพันธ์ หลังจากได้รับการอนุมัติจากคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้องแล้ว

การพิจารณานี้รวมถึงการปรับเงื่อนไขของโครงการเพื่อให้การหมุนเวียนของเม็ดเงินในเศรษฐกิจคล่องตัวขึ้น รวมถึงการให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและใช้เม็ดเงินได้ง่ายขึ้น อันเป็นไปตามเป้าหมายหลักของโครงการในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นายจุลพันธ์ระบุว่าโครงการดังกล่าวจะใช้เงินประมาณ 1.5 แสนล้านบาท ซึ่งจะส่งผลอย่างมีนัยสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศ

รัฐบาลยังได้รับความร่วมมือจากสถาบันการเงินในการเชื่อมโยงระบบดิจิทัลวอลเล็ตแบบ Open Loop โดยนำร่องกับสถาบันการเงินขนาดใหญ่ก่อน ทั้งนี้เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้จ่ายได้สะดวกผ่านแอปพลิเคชัน "ทางรัฐ" และยืนยันถึงความสำคัญเรื่องความปลอดภัยของระบบ Block chain ที่จะนำมาใช้ในครั้งนี้

สำหรับประชาชนที่ไม่มีสมาร์ทโฟน รัฐบาลจะมีการเปิดให้ลงทะเบียน โดยรายละเอียดจะประกาศภายหลังการประชุมของคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ใกล้เคียงกับการโอนเงินในเฟสที่ 3

นอกจากนี้ ยังมีการหารือในที่ประชุมคณะอนุกรรมการเกี่ยวกับมาตรการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในด้านต่าง ๆ อาทิ เกษตร คมนาคม และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งได้มีการนำเสนอใน 2 ส่วน คือ โครงการที่รัฐบาลได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว และยังเดินหน้าอยู่ 20 โครงการ และโครงการที่จะเริ่มขึ้นใหม่อีกราว 10 โครงการ

ตรวจสอบโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI