tradingkey.logo

กกร. มองเศรษฐกิจไทยปี 68 เติบโตจำกัดจากสงครามการค้ารอบใหม่และค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่งผลกดดันต่อการส่งออก

TradingKey
ผู้เขียนTony
5 ก.พ. 2025 เวลา 6:55
  • ภาคเอกชนไทยต้องเตรียมความพร้อมรับมือกับการกีดกันทางการค้าและความผันผวนของค่าเงินบาทที่แข็งค่าซึ่งอาจกระทบเศรษฐกิจในปี 2568
  • การแบ่งขั้วของห่วงโซ่อุปทานสามารถใช้เป็นโอกาสในการดึงดูดการลงทุนต่างชาติและเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน
  • สงครามการค้าใหม่ระหว่างสหรัฐฯ กับเม็กซิโก แคนาดา และจีน คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกในปี 2568 และ 2569

ที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะเผชิญความท้าทายจากการกีดกันทางการค้ารุนแรงและค่าเงินบาทที่แข็งค่าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทย โดยเฉพาะในบางอุตสาหกรรมที่ต้องแข่งขันกับสินค้าต่างประเทศ ขณะที่อุปสงค์ภายในยังอ่อนแอ การเตรียมแนวทางลดผลกระทบทั้งระยะสั้นและระยะยาวจึงเป็นสิ่งจำเป็น โดยใช้ประโยชน์จากการแบ่งขั้วของ Supply Chain ดึงดูดการลงทุนต่างชาติ และเร่งทำข้อตกลงทางการค้าเพิ่มเติมจาก FTA ไทย-EFTA เพื่อเสริมความสามารถในการแข่งขันสินค้าไทย

กกร. ยังคงประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 ไว้เท่ากับการประชุมเดือนมกราคมที่ผ่านมา คาดว่า GDP จะเติบโตได้ราว 2.4-2.9% การส่งออกขยายตัว 1.5-2.5% และเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.8-1.2% สงครามการค้ารอบใหม่ที่เริ่มขึ้นจากการประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ ต่อเม็กซิโก แคนาดา และจีน ได้กดดันการค้าโลก ซึ่งอาจส่งผลลบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจในปี 2568 และ 2569

โดยเฉพาะสินค้าจีนที่ไม่สามารถส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ อาจไหลกลับมาที่ประเทศคู่ค้ารวมถึงไทย ทำให้เกิดการแข่งขันด้านราคาที่รุนแรง กกร. จึงเสนอแนะการเจรจาระดับรัฐเพื่อป้องกันและบรรเทาผลกระทบ การสนับสนุนด้านกฎหมายเพื่อช่วยภาคเอกชน และการบูรณาการเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมในประเทศ พร้อมทั้งควบคุมการตั้งหรือขยายโรงงานในเขต Free Zone และส่งเสริมการใช้สินค้าที่ผลิตในประเทศ

นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เผยว่าการขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐฯ อาจเป็นผลดีต่อการส่งออกสินค้าไทยในระยะสั้น แต่ต้องจับตามาตรการต่อไปจากฝ่ายสหรัฐฯ เนื่องจากการส่งออกของไทยไปสหรัฐฯ ได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วงที่ผ่านมา

ตรวจสอบโดยTony
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI