
ยูโร (EUR) ขยับสูงขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ (USD) ในวันพุธ โดยกลับตัวจากการขาดทุนก่อนหน้านี้ ขณะที่การฟื้นตัวของเงินดอลลาร์สูญเสียแรงขับเคลื่อนก่อนการลงคะแนนเสียงในสภาคองเกรสที่สำคัญเพื่อยุติการปิดรัฐบาลที่ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐฯ ในขณะที่เขียน EUR/USD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 1.1589 ขยายการชนะเป็นวันที่หกติดต่อกันหลังจากดีดตัวขึ้นจากระดับต่ำสุดระหว่างวันใกล้ 1.1594
สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เตรียมลงคะแนนเสียงในวันพุธเกี่ยวกับร่างกฎหมายเพื่อเปิดรัฐบาลและฟื้นฟูการดำเนินงานของรัฐบาลกลาง ผู้นำเสียงข้างมากในสภา สตีฟ สเกลิส (Steve Scalise) กล่าวกับ CNBC ว่าการลงคะแนนเสียงคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณ 19.00 น. ตามเวลา ET หลังจากการอนุมัติแบบสองพรรค 60-40 ในวุฒิสภาเมื่อวันจันทร์
ความก้าวหน้าในครั้งนี้ช่วยบรรเทาความกังวลด้านการคลังในระยะสั้นและยกระดับความเชื่อมั่นในตลาดโดยรวม หากร่างกฎหมายการใช้จ่ายผ่านตามแผน จะส่งไปยังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อขออนุมัติขั้นสุดท้าย มาตรการนี้จะทำให้หน่วยงานรัฐบาลกลางส่วนใหญ่ได้รับเงินทุนจนถึงวันที่ 30 มกราคม 2026 ขณะที่ขยายการจัดสรรสำหรับบางหน่วยงานจนถึงวันที่ 30 กันยายน 2026
ในด้านยูโร สกุลเงินเดียวได้รับการสนับสนุนเล็กน้อยจากข้อมูลอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีที่คงที่และถ้อยแถลงที่เข้มงวดจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) ดัชนีราคาผู้บริโภคที่ปรับให้เป็นมาตรฐาน (HICP) ของเยอรมนีเพิ่มขึ้น 0.3% MoM และ 2.3% YoY ในเดือนตุลาคม ซึ่งตรงกับการคาดการณ์และเสริมสร้างความคาดหวังว่าอัตราเงินเฟ้อในยูโรโซนยังคงมีเสถียรภาพโดยทั่วไป
ในขณะเดียวกัน ผู้กำหนดนโยบายของ ECB อิซาเบล ชนาเบล (Isabel Schnabel) กล่าวเมื่อเช้าวันนี้ว่า เศรษฐกิจของกลุ่มยังคงแสดงให้เห็นถึง "โมเมนตัมพื้นฐานที่เป็นบวก" และว่า "อัตราเงินเฟ้อในภาคบริการยังคงมีความเหนียวแน่น" เธอเสริมว่าอัตราดอกเบี้ย "อยู่ในจุดที่ดีอย่างแน่นอน" แม้ว่าความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะ "เอียงไปทางด้านบวกเล็กน้อย" ซึ่งสัญญาณว่า ECB สบายใจที่จะรักษาจุดยืนของนโยบายในปัจจุบันไว้ในขณะนี้
มองไปข้างหน้า เทรดเดอร์จะติดตามความเคลื่อนไหวในวอชิงตันขณะที่การลงคะแนนเสียงเพื่อยุติการปิดรัฐบาลดำเนินไป ขณะที่ความสนใจในยุโรปจะเปลี่ยนไปที่รายงานการผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนในวันพฤหัสบดี ในสหรัฐฯ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการปล่อยข้อมูลที่ล่าช้า รวมถึงดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ทำให้ตลาด