tradingkey.logo

คาดการณ์ราคา XAGUSD: XAGUSD เพิ่มขึ้นใกล้ $41.50 ขณะที่การเก็งการลดดอกเบี้ยขนาดใหญ่ของเฟดเพิ่มขึ้น

FXStreet9 ก.ย. 2025 เวลา 2:57
  • ราคาโลหะเงินขยับสูงขึ้นใกล้ $41.40 ในช่วงตลาดลงทุนเอเชียวันอังคาร 
  • การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟด ร่วมกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ สนับสนุนราคาโลหะเงิน 
  • เทรดเดอร์รอรายงานอัตราเงินเฟ้อ PPI และ CPI ของสหรัฐฯ ในเดือนสิงหาคมในสัปดาห์นี้เพื่อหาแรงผลักดันใหม่ 

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) เคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นวันที่สามติดต่อกันอยู่ที่ประมาณ $41.40 ในช่วงเวลาการซื้อขายของเอเชียในวันอังคาร โลหะเงินปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากรายงานการจ้างงานที่อ่อนแอลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาได้เพิ่มความคาดหวังต่อการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่จากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) 

รายงานการจ้างงานของสหรัฐฯ ในวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการจ้างงานนอกภาคเกษตร (NFP) เพิ่มขึ้น 22,000 ตำแหน่งในเดือนสิงหาคม ตัวเลขนี้ตามมาจากการเพิ่มขึ้น 79,000 ตำแหน่ง (ปรับจาก 73,000) ที่บันทึกไว้ในเดือนกรกฎาคม และต่ำกว่าความเห็นของตลาดที่คาดการณ์ไว้ที่ 75,000 ตำแหน่ง ตลาดแรงงานที่เย็นลงได้เพิ่มความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดเพื่อกระตุ้นการจ้างงาน อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงอาจลดต้นทุนโอกาสในการถือครองโลหะเงิน ซึ่งสนับสนุนโลหะเงินที่ไม่ให้ผลตอบแทน 

นอกจากนี้ ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าอาจเพิ่มกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งสนับสนุนราคาโลหะเงิน "การซื้อสินทรัพย์ปลอดภัยเป็นปัจจัยสำคัญที่อยู่เบื้องหลังการเพิ่มขึ้นของราคาสินทรัพย์มีค่า การคาดการณ์การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ ร่วมกับความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์และความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า กำลังผลักดันนักลงทุนไปสู่การลงทุนในทองคำ" นายฮาเรช อาชาริยะ ผู้อำนวยการสมาคมทองคำและเครื่องประดับแห่งอินเดีย (IBJA) กล่าว 

รายงานเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้อาจให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) และดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนสิงหาคมจะถูกเผยแพร่ในวันพุธและวันพฤหัสบดีตามลำดับ หากมีการเพิ่มขึ้นที่ไม่คาดคิดในอัตราเงินเฟ้อ อาจสนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ (USD) และจำกัดการปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่มีการกำหนดราคาเป็นดอลลาร์ในระยะสั้น 

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI