tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD มุ่งเป้าไปที่โซนแนวต้านที่รวมกันรอบ ๆ $39.00

FXStreet25 ส.ค. 2025 เวลา 8:53
  • ราคาโลหะเงินอาจพบแนวต้านทันทีที่ระดับจิตวิทยาที่ 39.00 ดอลลาร์
  • ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ 14 วันอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเสริมสร้างแนวโน้มขาขึ้น
  • แนวรับหลักปรากฏที่เส้น EMA เก้าวันที่ 38.26 ดอลลาร์

ราคาโลหะแร่เงิน (XAG/USD) ลดลงหลังจากการปรับตัวขึ้นติดต่อกันสามวัน โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 38.80 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเวลายุโรปเมื่อวันจันทร์ การวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟรายวันแสดงให้เห็นว่าราคาของโลหะมีค่าอยู่ภายในรูปแบบกรอบราคาขาขึ้น ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ต่อเนื่อง

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วันอยู่เหนือระดับ 50 ซึ่งเสริมสร้างแนวโน้มขาขึ้น นอกจากนี้ ราคาโลหะเงินยังซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) เก้าวัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมราคาระยะสั้นมีความแข็งแกร่งกว่า

ในด้านบวก คู่ XAG/USD อาจทดสอบระดับจิตวิทยาที่ 39.00 ดอลลาร์ ตามด้วยขอบด้านบนของกรอบราคาขาขึ้นที่ประมาณ 39.17 ดอลลาร์ การทะลุผ่านโซนแนวต้านที่สำคัญนี้จะเสริมสร้างแนวโน้มขาขึ้นและสนับสนุนราคาโลหะให้ทดสอบที่ 39.53 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 ที่ทำได้เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม

ราคาโลหะเงินอาจพบแนวรับหลักที่เส้น EMA เก้าวันที่ 38.26 ดอลลาร์ ตามด้วยเส้น EMA 50 วันที่ 37.30 ดอลลาร์ และขอบด้านล่างของกรอบราคาขาขึ้นที่ประมาณ 37.20 ดอลลาร์ การทะลุผ่านโซนแนวรับที่ตัดกันนี้จะทำให้โมเมนตัมราคาระยะสั้นและระยะกลางอ่อนตัวลง และทำให้คู่ XAG/USD ทดสอบระดับต่ำสุดในรอบ 11 สัปดาห์ที่ 35.28 ดอลลาร์ ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน

XAG/USD: กราฟรายวัน

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI