คู่ NZD/USD กำลังปรับตัวลดลงจากระดับสูงสุดในรอบหกเดือนที่ใกล้ 0.6025 ซึ่งแตะเมื่อวันพุธที่ผ่านมา โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ประมาณ 0.6000 ขณะที่นักลงทุนตอบสนองต่อท่าทีเชิงระมัดระวังของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) และข้อมูลเศรษฐกิจที่หลากหลายจากนิวซีแลนด์ เฟดคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 4.25%-4.50% ตามที่ตลาดคาดการณ์ แต่ยอมรับถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นจากเงินเฟ้อและการว่างงาน ซึ่งเพิ่มความไม่แน่นอนให้กับตลาด
แถลงการณ์นโยบายของเฟดยืนยันถึงแนวทางที่ขึ้นอยู่กับข้อมูล โดยเน้นว่าเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับ "ค่อนข้างสูง" และความเสี่ยงต่อการว่างงานและเงินเฟ้อได้เพิ่มขึ้น ท่าทีเชิงระมัดระวังนี้รวมกับการลดงบดุลอย่างต่อเนื่อง ได้สนับสนุนดอลลาร์สหรัฐ (USD) และกดดันดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ยังคงทรงตัวใกล้ 99.50 สะท้อนถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ระมัดระวังก่อนการแถลงข่าวของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลตลาดแรงงานไตรมาสแรกของนิวซีแลนด์ได้เพิ่มความยากลำบากให้กับ Kiwi อัตราการว่างงานยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 5.1% ทำให้ตลาดประหลาดใจที่คาดว่าจะมีการเพิ่มขึ้นเล็กน้อยเป็น 5.3% อย่างไรก็ตาม ดัชนีต้นทุนแรงงานเติบโตในอัตราที่ช้ากว่าที่คาดการณ์ ซึ่งเสริมสร้างความคาดหวังในการผ่อนคลายเพิ่มเติมจากธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) RBNZ น่าจะรักษาท่าทีที่เป็นมิตรต่อการเงิน โดยตลาดคาดการณ์การลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมในเดือนที่จะถึงนี้
ทางเทคนิคแล้ว NZD/USD เผชิญกับแนวต้านแรกที่ 0.5943 ตามด้วย 0.5948 และ 0.5952 ขณะที่แนวรับอยู่ที่ 0.5930, 0.5915 และ 0.5886 RSI อยู่ในระดับกลางที่ 55.28 ขณะที่ MACD แสดงการเบี่ยงเบนขาลง ซึ่งบ่งชี้ถึงการปรับฐานที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรก็ตาม เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว รวมถึง SMA 100 วัน (0.5728) และ SMA 200 วัน (0.5886) แสดงถึงแนวโน้มที่เป็นขาขึ้นมากขึ้น ซึ่งยังคงรักษาแนวโน้มที่กว้างขึ้นไว้ได้
โดยสรุป แนวโน้มของ NZD/USD ยังคงหลากหลาย ขณะที่คู่เงินนี้ปรับฐานจากการเพิ่มขึ้นล่าสุด โดยความเชื่อมั่นของตลาดน่าจะขึ้นอยู่กับแนวทางของเฟดและความชัดเจนเพิ่มเติมเกี่ยวกับเส้นทางเศรษฐกิจของนิวซีแลนด์