tradingkey.logo

ฟอเร็กซ์รายวัน: ดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับตัวขึ้นในรายสัปดาห์ก่อนข้อมูลเงินเฟ้อฝั่งผู้ผลิต

FXStreet11 ต.ค. 2024 เวลา 11:48

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม:

หลังจากการเคลื่อนไหวที่ผันผวนในวันพฤหัสบดีตลาดดูเหมือนจะแสดงเสถียรภาพเพื่อเริ่มต้นวันซื้อขายสุดท้ายของสัปดาห์ ปฏิทินเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จะมีข้อมูลดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ในเดือนกันยายนและการสํารวจความเชื่อมั่นผู้บริโภคของมหาวิทยาลัยมิชิแกนในเดือนตุลาคม  ซึ่งในช่วงต้นเซสชั่นของอเมริกา สำนักงานสถิติแคนาดาจะเผยแพร่ข้อมูลตลาดแรงงานสําหรับเดือนกันยายน

ราคาดอลลาร์สหรัฐสัปดาห์นี้

ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ ดอลลาร์แคนนาดา

  USD EUR GBP JPY CAD AUD NZD CHF
USD   0.25% 0.33% 0.04% 1.35% 0.74% 0.98% -0.21%
EUR -0.25%   0.14% -0.16% 1.12% 0.46% 0.71% -0.51%
GBP -0.33% -0.14%   -0.35% 0.99% 0.32% 0.60% -0.54%
JPY -0.04% 0.16% 0.35%   1.32% 0.70% 0.90% -0.23%
CAD -1.35% -1.12% -0.99% -1.32%   -0.57% -0.38% -1.56%
AUD -0.74% -0.46% -0.32% -0.70% 0.57%   0.29% -0.91%
NZD -0.98% -0.71% -0.60% -0.90% 0.38% -0.29%   -1.17%
CHF 0.21% 0.51% 0.54% 0.23% 1.56% 0.91% 1.17%  

แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).

อัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ ซึ่งวัดจากการเปลี่ยนแปลงของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ลดลงมาเป็น 2.4% ต่อปีในเดือนกันยายนจากที่ 2.5% ในเดือนสิงหาคม ตามที่สํานักงานสถิติแรงงานสหรัฐฯ (BLS) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดี รายละเอียดอื่น ๆ ของรายงานดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า CPI พื้นฐาน ซึ่งไม่รวมราคาอาหารและพลังงานที่ผันผวน เพิ่มขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับปีต่อปี สูงกว่าตัวเลขในเดือนสิงหาคมและการคาดการณ์ของตลาดที่ 3.2%  ดัชนี CPI พื้นฐานรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนกันยายน  ดอลลาร์สหรัฐ (USD) ไม่สามารถใช้อานิสงส์จากรายงานตัวเลขเหล่านี้ เมื่อจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์อยู่ที่ 258,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 5 ตุลาคม โดยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วจาก 225,000 รายในสัปดาห์ก่อน หลังจากแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบหนึ่งเดือนที่ประมาณ 103.20 ในวันพฤหัสบดี ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปิดกราฟรายวันทรงตัวและเข้าสู่ช่วงเวลาของการพักฐานใต้ระดับ 103.00 ในช่วงเช้าของวันศุกร์ 

ข้อมูลที่เผยแพร่โดยสํานักงานสถิติแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (UK) แสดงให้เห็นเมื่อวันศุกร์ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศขยายตัว 0.2% ต่อเดือนในเดือนสิงหาคม ซึ่งตรงกับการประมาณการของตลาด  ในด้านการผลิตภาคอุตสาหกรรมและการผลิตเพิ่มขึ้น 0.5% และ 1.1% ตามลําดับ แม้ว่า GBP/USD จะปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลที่สดใส แต่ก็ยังคงวิ่งอยู่ใต้ระดับ 1.3100 ในระหว่างเซสชั่นยุโรป

EUR/USD ปิดกราฟทรงตัวในวันพฤหัสบดี เมื่อ USD สูญเสียแรงการแข็งค่าในช่วงครึ่งหลังของวันนี้ คู่สกุลเงินดังกล่าวพยายามรวบรวมโมเมนตัมการฟื้นตัวและซื้อขายในกรอบแคบ ๆ ใต้ระดับ 1.0950 เล็กน้อยในช่วงเช้าของเซสชั่นยุโรป  โดยสำนักงาน Destatis ของเยอรมนียืนยันอีกครั้งเมื่อวันศุกร์ว่าดัชนี CPI ประจําปีเพิ่มขึ้น 1.6% เป็นรายปีในเดือนกันยายน ซึ่งตรงกับการประมาณการเบื้องต้น

USD/CAD สามารถขยายแนวโน้มขาขึ้นในวันพฤหัสบดีและปิดตลาดเป็นวันที่เจ็ดติดต่อกันในแดนบวก ก่อนข้อมูลการจ้างงานของแคนาดา คู่สกุลเงินนี้ซื้อขายสูงขึ้นเล็กน้อยในรายวันมาใกล้ 1.3750

USD/JPY ปิดในโซนสีแดงในวันพฤหัสบดี หลังจากกลับตัวลงจากระดับสูงสุดในรอบหลายเดือนที่สูงกว่า 149.60 คู่เงินนี้วิ่งค่อนข้างเงียบเหงาและขยับขึ้น-ลงในกรอบแคบ ๆ ใต้ระดับ 149.00

ราคาทองคํารวบรวมโมเมนตัมการฟื้นตัวและสิ้นสุดการร่วงลงติดต่อกันหกวันในวันพฤหัสบดี  XAU/USD ยังคงปรับตัวสูงขึ้นสู่ระดับ $2,650 ในวันศุกร์

เงินเฟ้อ: คำถามที่พบบ่อย

อัตราเงินเฟ้อคืออะไร?

อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คืออะไร?

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง

อัตราเงินเฟ้อมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างไร?

แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา

อัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร?

ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น

 
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน
Tradingkey

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI