tradingkey.logo

ฟอเร็กซ์รายวัน: โฟกัสเปลี่ยนไปที่ตัวเลขเงินเฟ้อของยูโรโซนและข้อมูลสําคัญของสหรัฐฯ เมื่อเข้าสู่ไตรมาสที่ 4

FXStreet1 ต.ค. 2024 เวลา 12:42

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันอังคารที่ 1 ตุลาคม:

หลังจากการเคลื่อนไหวที่ผันผวนในตลาดการเงินเมื่อวันจันทร์ นักลงทุนจึงเปลี่ยนความสนใจไปที่การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจมหภาคที่สําคัญเมื่อไตรมาสที่สี่เริ่มขึ้น  ทางด้าน Eurostat จะเผยแพร่ดัชนีราคาผู้บริโภคที่สอดคล้องกัน (HICP) ซึ่งเป็นมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่ต้องการของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ในวันอังคาร  แล้วต่อไปในวันนี้ดัชนีผู้จัดการฝ่ายผลิต (PMI) ภาคการผลิตของ ISM สําหรับเดือนกันยายนและข้อมูลการเปิดรับสมัครงาน JOLTS สําหรับเดือนสิงหาคมจะปรากฏในรายงานทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ  ผู้กําหนดนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) หลายคนมีกําหนดจะขึ้นกล่าวสุนทรพจน์เช่นกัน

ราคาดอลลาร์สหรัฐในสัปดาห์นี้

ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ สัปดาห์นี้ ดอลลาร์สหรัฐ แข็งแกร่งที่สุดเมื่อเทียบกับ เยนญี่ปุ่น

  USD EUR GBP JPY CAD AUD NZD CHF
USD   0.28% -0.06% 1.52% 0.06% -0.34% 0.08% 0.67%
EUR -0.28%   -0.33% 1.24% -0.19% -0.56% -0.17% 0.47%
GBP 0.06% 0.33%   1.72% 0.14% -0.23% 0.16% 0.80%
JPY -1.52% -1.24% -1.72%   -1.39% -1.90% -1.40% -0.79%
CAD -0.06% 0.19% -0.14% 1.39%   -0.36% 0.02% 0.66%
AUD 0.34% 0.56% 0.23% 1.90% 0.36%   0.39% 1.03%
NZD -0.08% 0.17% -0.16% 1.40% -0.02% -0.39%   0.62%
CHF -0.67% -0.47% -0.80% 0.79% -0.66% -1.03% -0.62%  

แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).

 

ในขณะที่ขึ้นพูดในการประชุมประจําปีของสมาคมเศรษฐกิจธุรกิจแห่งชาติเมื่อวันจันทร์  Jerome Powell ประธานเฟดกล่าวว่าเฟดไม่ได้รีบร้อนที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว  โดยดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (USD) ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงชั่วโมงการซื้อขายของอเมริกาและปิดตลาดวันสุดท้ายของไตรมาสที่สามในแดนบวก ซึ่งในช่วงเช้าของวันอังคารดัชนีดอลลาร์วิ่งค่อนข้างเงียบเหงาใต้ระดับ 101.00  ในขณะเดียวกันฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายต่ำลงเล็กน้อยในวันนี้ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่ระแวดระวัง

หลังจากเข้าทดสอบระดับ 1.1200 ในช่วงชั่วโมงการซื้อขายของยุโรปในวันจันทร์ EUR/USD พลิกตัวเป็นขาลงในเซสชั่นอเมริกาและปิดกราฟรายวันในแดนลบ แล้วในช่วงเช้าวันอังคาร คู่สกุลเงินนี้ผันผวนในกรอบราคาแคบ ๆ ใต้ระดับ 1.1150  ตลาดคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานแบบ HICP ประจําปีจะยังคงไม่เปลี่ยนแปลงที่ 2.8% ในเดือนกันยายนสำหรับในยูโรโซน

GBP/USD ปรับตัวสูงขึ้นในช่วงต้นสัปดาห์ แต่สูญเสียแรงฉุดเชิงบวกไปจนปิดกราฟรายวันแทบไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ คู่สกุลเงินนี้ขยับตัวไซด์เวย์ใต้ระดับ 1.3400 ในเช้าของเซสชั่นยุโรปวันนี้

ในสรุปความคิดเห็นจากการประชุมนโยบายเดือนกันยายนทางธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ย้ำว่า ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) จะคงจุดยืนที่ผ่อนคลายในปัจจุบัน แต่จะปรับการใช้นโยบายไปหากสภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น  USD/JPY รวบรวมโมเมนตัมขาขึ้นได้หลังจากบันทึกการวิ่งขาขึ้นรายวันในวันจันทร์และซื้อขายที่บริเวณระดับ 144.50 ในช่วงเช้าของยุโรป โดยปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.5% ในรายวันนั้น

ราคาทองคําขยายการปรับฐานหลังจากเห็นการวิ่งขาลงเมื่อวันศุกร์และปรับตัวลดลงเกือบ 1% ในวันจันทร์  XAU/USD ยังคงยืนหยัดทรงตัวได้ในช่วงเช้าวันอังคารและซื้อขายเหนือระดับ $2,640

ข้อมูลจากออสเตรเลียแสดงให้เห็นว่ายอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 0.7% เป็นรายเดือนในเดือนสิงหาคม ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ว่าจะเพิ่มขึ้นที่ 0.4%  ส่วนในแง่ลบ จำนวนใบอนุญาตก่อสร้างลดลง 6.1% ในช่วงเวลาเดียวกัน  ทำให้ AUD/USD ซื้อขายสูงขึ้นเล็กน้อยในวันนี้ที่เหนือ 0.6900 เมื่อเริ่มต้นเซสชั่นยุโรป

 
 

เงินเฟ้อ: คำถามที่พบบ่อย

อัตราเงินเฟ้อคืออะไร?

 

อัตราเงินเฟ้อวัดการเพิ่มขึ้นของราคาในตะกร้าสินค้าและบริการที่ใช้อ้างอิง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปมักแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเทียบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะไม่รวมองค์ประกอบที่มีความผันผวนสูงเช่น อาหารและเชื้อเพลิง ปัจจัยเหล่านี้อาจผันผวนเพราะสถานการณ์ทางภูมิรัฐศาสตร์ และการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเป็นตัวเลขที่นักเศรษฐศาสตร์ให้ความสำคัญและเป็นตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้อ้างอิงในการกำหนดเป้าหมาย ธนาคารกลางฯ นิยมคงอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ โดยปกติจะอยู่ที่ประมาณ 2%

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) คืออะไร?

 

ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) จะวัดการเปลี่ยนแปลงของราคาตะกร้าสินค้าและบริการในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง โดยปกติ CPI จะแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงแบบเดือนต่อเดือน (MoM) และแบบปีต่อปี (YoY) CPI หลักคือตัวเลขที่ธนาคารกลางใช้กำหนดราคาเป้าหมาย เพราะ CPI ทั่วไปไม่รวมปัจจัยเช่นการผลิตอาหารและเชื้อเพลิงที่มีความผันผวน ดังนั้น เมื่อ CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้นมากกว่า 2% จึงมักจะส่งผลให้ธนาคารกลางปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้น นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเมื่อ CPI ลดลงต่ำกว่า 2% เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยในระดับสูง จึงเป็นผลดีต่อสกุลเงิน อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นมักส่งผลให้สกุลเงินแข็งค่าขึ้น และตรงกันข้าม สกุลเงินจะอ่อนค่าเมื่ออัตราเงินเฟ้อลดลง

อัตราเงินเฟ้อมีผลกระทบต่ออัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศอย่างไร?

 

แม้ว่าอาจดูเหมือนขัดกับภาพความเป็นจริงที่เห็น แต่อัตราเงินเฟ้อในประเทศที่สูงจะผลักดันมูลค่าของสกุลเงินของประเทศนั้นๆ ให้สูงขึ้นเพราะการขึ้นดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ซึ่งดึงดูดเงินจากนักลงทุนทั่วโลกให้ไหลเข้าประเทศ เพราะพวกเขากำลังมองหาสถานที่ที่มีกำไรจากการฝากเงินของพวกเขา

อัตราเงินเฟ้อส่งผลต่อราคาทองคำอย่างไร?

 

ในอดีต ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่นักลงทุนหันไปพึ่งพาในช่วงเวลาที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง เนื่องจากทองคำยังคงรักษามูลค่าไว้ได้ นอกจากนี้ ในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนอย่างรุนแรง นักลงทุนมักจะซื้อทองคำด้วยสถานะการเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย แต่ในปัจจุบันมักไม่ได้เป็นเช่นนั้น เพราะเมื่อเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูง ธนาคารกลางต่างๆ มักจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อต่อสู้กับอัตราเงินเฟ้อ

 

อัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจึงไม่เป็นผลดีต่อทองคำ เนื่องจากทำให้ต้นทุนโอกาสในการถือครองทองคำลดลงเพราะเป็นสินทรัพย์ที่ดอกเบี้ยไม่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับการนำเงินไปฝากในบัญชีเงินสด ในทางกลับกัน อัตราเงินเฟ้อที่ลดลงมีแนวโน้มที่จะส่งผลบวกต่อทองคำ เพราะจะทำให้อัตราดอกเบี้ยลดลง ทำให้โลหะมีค่าเป็นทางเลือกการลงทุนที่มีโอกาสมากขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน
Tradingkey

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI