tradingkey.logo

ฟอเร็กซ์รายวัน: เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่อย่างระมัดระวัง ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของประธานเฟดพาวเวลล์

15 ก.ค. 2024 เวลา 14:13

นี่คือสิ่งที่คุณต้องรู้ในการลงทุนในวันจันทร์ที่ 15 กรกฎาคม:

ตลาดได้เริ่มต้นสัปดาห์ใหม่ด้วยความระมัดระวัง หลังจากมีข่าวความพยายามในการลอบสังหารอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์  ด้านปฏิทินเศรษฐกิจจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่มีผลกระทบสูงในวันจันทร์ ซึ่งต่อไปในเซสชั่นอเมริกา นาย Jerome Powell ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จะกล่าวสุนทรพจน์ที่งาน Economic Club แห่งเมืองวอลชิงตัน

ราคาดอลลาร์สหรัฐ 7 วันล่าสุด

ตารางด้านล่างแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เทียบกับสกุลเงินหลักที่ระบุไว้ 7 วันล่าสุด ดอลลาร์สหรัฐ อ่อนค่าที่สุดเมื่อเทียบกับ เยนญี่ปุ่น

  USD EUR GBP JPY CAD AUD NZD CHF
USD   -0.62% -1.33% -1.80% -0.06% -0.56% 0.66% -0.17%
EUR 0.62%   -0.51% -0.88% 0.88% 0.22% 1.63% 0.79%
GBP 1.33% 0.51%   -0.41% 1.42% 0.73% 2.15% 1.31%
JPY 1.80% 0.88% 0.41%   1.78% 1.28% 2.67% 1.72%
CAD 0.06% -0.88% -1.42% -1.78%   -0.54% 0.72% -0.09%
AUD 0.56% -0.22% -0.73% -1.28% 0.54%   1.41% 0.57%
NZD -0.66% -1.63% -2.15% -2.67% -0.72% -1.41%   -0.83%
CHF 0.17% -0.79% -1.31% -1.72% 0.09% -0.57% 0.83%  

แผนที่ความร้อนแสดงเปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงของสกุลเงินหลักเมื่อเทียบกัน สกุลเงินหลักจะถูกเลือกจากคอลัมน์ด้านซ้าย ในขณะที่สกุลเงินอ้างอิงจะถูกเลือกจากแถวบนสุด ตัวอย่างเช่น หากคุณเลือก ดอลลาร์สหรัฐ จากคอลัมน์ด้านซ้าย และเลื่อนไปตามเส้นแนวนอนไปยัง เยนญี่ปุ่น เปอร์เซ็นต์การเปลี่ยนแปลงที่แสดงในกล่องจะแสดงถึง USD (สกุลเงินหลัก)/JPY (สกุลเงินรอง).

 

หลังจากการปรับตัวลดลงอย่างรวดเร็วในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ก่อนหน้า ดัชนีดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงอยู่ในช่วงการพักฐานเหนือระดับ 104.00 ในช่วงเช้าของเซสชั่นยุโรปในวันจันทร์ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีวิ่งผันผวนเหนือระดับ 4.2% และฟิวเจอร์สดัชนีหุ้นสหรัฐของซื้อขายสูงขึ้นเล็กน้อย

ในช่วงเซสชั่นการซื้อขายของเอเชีย ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวในอัตรา 4.7% ต่อปีในไตรมาสที่สอง ตัวเลขนี้เกิดขึ้นหลังจากการเติบโต 5.3% ที่บันทึกไว้ได้ในไตรมาสแรกและแย่กว่าที่ตลาดคาดการณ์ว่าจะขยายตัว 5.1%  ในขณะที่ยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมิถุนายน  และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 3.3%  และการผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัว 5.3% ซึ่งลดลงจาก 5.6% ในเดือนพ.ค.

AUD/USD ผันผวนในช่องแคบต่ํากว่า 0.6800 เล็กน้อยตามข้อมูลจีนที่น่าผิดหวัง

EUR/USD ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 0.6% ในสัปดาห์ที่แล้วและปิดกราฟรายสัปดาห์สูงสุดนับตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม โดยคู่สกุลเงินดังกล่าวเคลื่อนไหวอยู่ในช่วงการพักฐานและซื้อขายที่บริเวณระดับ 1.0900 ในช่วงเช้าของเซสชั่นยุโรปในวันจันทร์

GBP/USD ปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่า 1% เป็นครั้งที่สองติดต่อกันในสัปดาห์ที่แล้วและแตะระดับสูงสุดในรอบปี ปัจจุบันคู่เงินนี้ซื้อขายในกรอบแคบใต้ระดับ 1.3000 เล็กน้อย

หลังจากการพุ่งขึ้นที่เห็นได้ในวันพฤหัสบดี ราคาทองคําก็เผชิญแรงกดดันเพื่อรักษาโมเมนตัมขาขึ้นไว้และอ่อนตัวเล็กน้อยในวันศุกร์  แต่อย่างไรก็ตาม XAU/USD สามารถทรงตัวเหนือระดับ $2,400 ได้ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์นี้

หลังจากประสบสภาวะการวิ่งขาลงอย่างหนักในช่วงครึ่งหลังของสัปดาห์ก่อนหน้า คู่เงิน USD/JPY พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะฟื้นตัว ล่าสุดคู่สกุลเงินดังกล่าวซื้อขายต่ำลงเล็กน้อยในรายวัน ที่ใต้ระดับ 158.00

 

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับความเชื่อมั่นในตลาดที่มีต่อความเสี่ยง

คําว่า 'risk-on' และ 'risk-off' หมายถึงอะไรเมื่อพูดถึงความเชื่อมั่นในตลาดการเงิน?

ในโลกของศัพท์ทางการเงิน มักจะมีคําที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสองคํา "risk-on" และ "risk off" สองคำนี้หมายถึงระดับความเสี่ยงที่นักลงทุนเต็มใจที่จะยอมรับในช่วงเวลาที่อ้างอิง ในตลาดลงทุนที่ "เปิดรับความเสี่ยง" คือสิ่งที่นักลงทุนมีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับอนาคต และเต็มใจที่จะซื้อสินทรัพย์เสี่ยงมากขึ้น ในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง" นักลงทุนเริ่ม 'ลงทุนอย่างปลอดภัย' เพราะพวกเขากังวลเกี่ยวกับอนาคต ดังนั้นจึงซื้อสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงน้อยกว่า ซึ่งมีความแน่นอนมากขึ้นในการให้ผลตอบแทนแม้ว่าจะค่อนทำกำไรได้น้อยก็ตาม

สินทรัพย์หลักที่ต้องติดตามเพื่อทําความเข้าใจว่าความมั่นใจของนักลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไปมีตัวไหนบ้าง?

โดยปกติในช่วงที่ตลาดลงทุน "มีความเสี่ยง" ตลาดหุ้นจะเพิ่มขึ้นสินค้าโภคภัณฑ์ส่วนใหญ่เข้าพอร์ต ทองคําก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในช่วงเวลานี้เช่นกันเนื่องจากได้รับประโยชน์จากแนวโน้มการเติบโตที่มีมากขึ้น สกุลเงินของประเทศที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์จํานวนมากจะแข็งแกร่งขึ้นเเพราะความต้องการสินค้าโภคภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น สกุลเงินดิจิทัลก็จะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นในตลาดลงทุนที่ "ปิดรับความเสี่ยง"  พันธบัตรรัฐบาลเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะพันธบัตรรัฐบาลชื่อดัง ทองคําได้รับความนิยม และสกุลเงินที่ถือได้ว่าเป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัย เช่น เยนญี่ปุ่น ฟรังก์สวิส และดอลลาร์สหรัฐ ล้วนได้รับประโยชน์

สกุลเงินใดแข็งค่าขึ้นเมื่อนักลงทุน 'เปิดรับความเสี่ยง'?

ดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ดอลลาร์แคนาดา (CAD) ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) และสกุลเงินรองลงมา เช่น รูเบิล (RUB) และแรนด์แอฟริกาใต้ (ZAR) ล้วนมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นในตลาดที่ "เปิดรับความเสี่ยง" นี่เป็นเพราะเศรษฐกิจของสกุลเงินเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์อย่างมากเพื่อการเติบโต และสินค้าโภคภัณฑ์มีแนวโน้มที่จะขึ้นราคาในช่วงที่ตลาดกล้าเปิดรับความเสี่ยง เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าจะมีความต้องการวัตถุดิบมากขึ้นในอนาคตเพราะกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้น

สกุลเงินใดแข็งค่าขึ้นเมื่อนักลงทุน 'ปิดรับความเสี่ยง'?

สกุลเงินหลักที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงที่ "ปิดรับความเสี่ยง" ได้แก่ ดอลลาร์สหรัฐ (USD) เยนญี่ปุ่น (JPY) และฟรังก์สวิส (CHF) ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสํารองของโลกและเพราะในช่วงวิกฤต นักลงทุนจะซื้อหนี้ของรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งถูกมองว่าปลอดภัยเพราะเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่างสหรัฐอเมริกาไม่น่าจะผิดนัดชําระหนี้ เงินเยนจะแข็งค่าขึ้นเพราะมีความต้องการพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นมากขึ้น สาเหตุนั้นเป็นเพราะนักลงทุนในประเทศที่ถือหุ้นด้วยสัดส่วนที่สูงไม่น่าจะทิ้งพันธบัตรเหล่านี้แม้อยู่ในภาวะวิกฤต ฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นเพราะกฎหมายการธนาคารของสวิสที่เข้มงวดช่วยให้นักลงทุนได้รับการคุ้มครองเงินทุนมากขึ้น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI