tradingkey.logo

สหรัฐฯ: การปรับอัตราภาษีใหม่นำมาซึ่งความชัดเจน แต่ความไม่แน่นอนในการค้า仍คงอยู่ – UOB Group

FXStreet4 ส.ค. 2025 เวลา 9:21

ก่อนถึงกำหนดเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งตรงเมื่อวันพฤหัสบดี (31 ก.ค.) ที่ปรับเปลี่ยนภาษี "ตอบโต้" ในหลายประเทศ/ภูมิภาค โดยมีอัตราภาษีที่ปรับใหม่อยู่ระหว่าง 10% ถึง 41% อัตราภาษีดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 7 สิงหาคม อัตราภาษี "ตอบโต้" เดิมถูกประกาศเมื่อวันที่ 2 เมษายน "วันปลดปล่อย" ซึ่งทำให้ตลาดทั่วโลกตกใจจากอัตราที่สูงเกินคาด สหรัฐฯ จึงได้หยุดการดำเนินการเป็นเวลา 90 วัน และแทนที่ด้วยอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับผู้ส่งออกส่วนใหญ่ และกำหนดเส้นตายใหม่เป็นวันที่ 1 สิงหาคม นักวิเคราะห์ FX ของกลุ่ม UOB ซวน เท็ค คิน รายงาน

การปรับภาษีก่อนกำหนดเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม

"ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งตรงที่ปรับเปลี่ยนภาษี 'ตอบโต้' สำหรับ 69 ประเทศ โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 7 ส.ค. โดยมีอัตราอยู่ระหว่าง 10% ถึง 41% ผลกระทบหลักรวมถึงการลดอัตราภาษีสำหรับประเทศในอาเซียนและอัตราภาษีพื้นฐาน 10% สำหรับสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังมีการประกาศคำมั่นลงทุนจากสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นที่จะลงทุนในสหรัฐฯ ด้วย"

"การขนส่งสินค้าจะต้องเผชิญกับภาษี 40% แต่รายละเอียดยังไม่ชัดเจนและอยู่ภายใต้การเจรจาทวิภาคี ภาษีเฉพาะภาคเพิ่มความไม่แน่นอน โดยมีการสอบสวนที่รอดำเนินการเกี่ยวกับเซมิคอนดักเตอร์และเภสัชภัณฑ์ สิงคโปร์อาจได้รับผลกระทบ เนื่องจากเภสัชภัณฑ์คิดเป็น 35% ของมูลค่าการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ในปี 2024 เพิ่มขึ้นจาก 24% ในปี 2023"

"แม้ว่าความชัดเจนเกี่ยวกับภาษีจะดีขึ้น แต่ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขนส่งและภาษีเฉพาะภาคยังคงมีอยู่ การเปลี่ยนแปลงของสหรัฐฯ ไปสู่ข้อตกลงทวิภาคีได้ทำให้ความพยายามในการโลกาภิวัตน์เกิดความไม่สงบ เพิ่มความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อและความตึงเครียดทางการค้าโลก ความกังวลเกี่ยวกับการลดการใช้ดอลลาร์กำลังเพิ่มขึ้น แม้ว่าดอลลาร์สหรัฐจะยังคงมีอำนาจเหนืออยู่ในช่วงเวลาหนึ่ง แนวโน้มการส่งออกของเอเชียอาจอ่อนตัวในครึ่งหลังของปี 2025 และเข้าสู่ปี 2026 ขณะที่การสร้างภูมิภาคเร่งตัวขึ้น โดยอาเซียนมีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากโครงการต่างๆ เช่น เขตเศรษฐกิจพิเศษจอร์ฮอร์-สิงคโปร์ และการไหลเข้าของ FDI ในสภาพแวดล้อมที่ไม่แน่น

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI