นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนธันวาคม 2567 อยู่ที่ระดับ 90.1 ลดลงจาก 91.4 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 เนื่องจากการผลิตชะลอตัวหลังจากการเร่งผลิตในเดือนก่อนหน้า ประกอบกับมีวันทำงานน้อยลงในเดือนธันวาคมเนื่องจากเทศกาลปีใหม่ รวมถึงสถานการณ์น้ำท่วมและสภาพอากาศแปรปรวนในภาคใต้ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
การชะลอตัวของอุปสงค์ในประเทศสะท้อนในยอดขายสินค้าอุตสาหกรรมยานยนต์ซึ่งหดตัว 31.34% ในเดือนพฤศจิกายน 2567 สถาบันการเงินยังคงระมัดระวังการอนุมัติสินเชื่อขณะเดียวกันสินค้ากลุ่มวัสดุก่อสร้างและพลังงานก็ชะลอตัวลงเช่นกัน ท่ามกลางความเปราะบางของกำลังซื้อเนื่องจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากสินค้าจีน
อย่างไรก็ตาม ปัจจัยบวกที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจในเดือนธันวาคมได้แก่ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายในช่วงเทศกาลปีใหม่ การใช้สิทธิ์ FTA ที่เพิ่มขึ้น การขยายตัวของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และการเติบโตของการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ ด้วยมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวของภาครัฐ
ส.อ.ท. คาดการณ์ว่าดัชนีความเชื่อมั่นในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะอยู่ที่ระดับ 95.5 ลดลงจาก 96.7 ในเดือนพฤศจิกายน 2567 โดยมีปัจจัยเสี่ยงจากการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ มาตรการกีดกันทางการค้าและการขึ้นภาษีของสหรัฐฯ อย่างไรก็ตาม มาตรการลดหย่อนภาษี Easy E-Receipt 2.0 และโครงการแจกเงิน 10,000 บาทเฟส 2 จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในไตรมาสแรกของปี 2568
นอกจากนี้ ส.อ.ท. มีข้อเสนอแนะต่อภาครัฐให้จัดตั้ง War Room เพื่อรับมือกับนโยบายการค้าของสหรัฐฯ ออกมาตรการเยียวยาสำหรับ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าแรง ส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานในโรงงานอุตสาหกรรม และขยายผลความสำเร็จจากการเจรจา FTA ไทย – EFTA ไปสู่การเจรจา FTA ไทย-สหภาพยุโรปเพื่อขยายโอกาสทางการค้า