tradingkey.logo

“อุปสงค์อ่อนเกินไปสําหรับที่จะทำใหเอัตราเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว” - สวาติ ดินกรา บอร์ด BoE

15 ก.ค. 2024 เวลา 4:45

สวาติ ดินกรา (Swati Dhingra) สมาชิกคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางอังกฤษกล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าอัตราเงินเฟ้อในสหราชอาณาจักรไม่น่าจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วอีกครั้ง และธนาคารกลางของสหราชอาณาจักรควรลดต้นทุนการกู้ยืม

ข้อความอ้างอิง

ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเริ่มปรับนโยบายให้เป็นปกติ (อัตราดอกเบี้ย) เพื่อให้เราสามารถหยุดบีบคั้นมาตรฐานค่าครองชีพในแบบที่เราเคยทำมา และพยายามลดอัตราเงินเฟ้อลง

ฉันไม่เห็นการบริโภคฟื่องฟู และถ้าเราจะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยที่สูงมาก ที่เรามีอยู่ในตอนนี้... มันต้องใช้เวลาสักพักกว่าที่จะเกิดขึ้น เพื่อให้เราลดดอกเบี้ยลงได้ และเช่นเดียวกัน ยังต้องใช้เวลากว่าจะได้เห็นผลกระทบจากการลดดอกเบี้ยเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจที่แท้จริง

อุปสงค์อ่อนเกินไปที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว 


ตอนนี้เป็นเวลาที่จะเริ่มปรับนโยบายให้เป็นปกติ (อัตราดอกเบี้ย) เพื่อให้เราสามารถหยุดบีบคั้นมาตรฐานค่าครองชีพ

ปฏิกิริยาของตลาด

ในขณะที่เขียนข่าวนี้ GBPUSD เคลื่อนไหวอยู่ที่ 1.2965 ปรับตัวลดลงในวันนี้ 0.17%

คําถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับ BoE

 

ธนาคารกลางแห่งประเทศอังกฤษทําอะไรบ้าง และส่งผลกระทบต่อเงินปอนด์อย่างไร?


ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เป็นผู้กําหนดนโยบายการเงินสําหรับสหราชอาณาจักร โดยเป้าหมายหลักคือการมี 'เสถียรภาพด้านราคา' หรืออัตราเงินเฟ้อคงที่ที่ 2% เครื่องมือในการบรรลุเป้าหมายนี้คือการปรับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้พื้นฐาน ทาง BoE กําหนดอัตราการปล่อยกู้ให้กับธนาคารพาณิชย์และธนาคารให้กู้ยืมซึ่งกันและกัน โดยกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยในระบบเศรษฐกิจโดยรวม เครื่องมือนี้ยังจะส่งผลกระทบต่อมูลค่าของเงินปอนด์สเตอร์ลิง (GBP) ด้วย
 

นโยบายการเงินของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษมีอิทธิพลต่อสเตอร์ลิงอย่างไร?


เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเป้าหมายของธนาคารแห่งประเทศอังกฤษจะตอบสนองด้วยการขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อทําให้ผู้คนและธุรกิจเข้าถึงสินเชื่อได้ยากขึ้น นี่เป็นผลดีต่อเงินปอนด์สเตอร์ลิงเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นทําให้สหราชอาณาจักรเป็นสถานที่ที่น่าสนใจยิ่งขึ้นสําหรับนักลงทุนทั่วโลกในการนำเงินของพวกเขามาลงทุน เมื่ออัตราเงินเฟ้อต่ำกว่าเป้าหมายก็จะเป็นสัญญาณว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจกําลังชะลอตัว และ BoE จะพิจารณาที่จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้สินเชื่อถูกลง โดยหวังว่าธุรกิจต่าง ๆ จะกู้ยืมเพื่อลงทุนในโครงการที่สร้างการเติบโตได้ ซึ่งเป็นผลกระทบเชิงลบต่อเงินปอนด์สเตอร์ลิง
 

มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) คืออะไร และส่งผลต่อเงินปอนด์อย่างไร?


ในสถานการณ์ที่น่ากังวล ธนาคารแห่งประเทศอังกฤษอาจสามารถออกนโยบายที่เรียกว่าการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) โดยการทำ QE เป็นกระบวนการที่ BoE เพิ่มการไหลเข้าของสินเชื่อในระบบการเงินที่ติดขัดมาก การทำ QE เป็นนโยบายทางเลือกสุดท้ายเมื่อการลดอัตราดอกเบี้ยจะไม่เห็นผลที่ต้องการ กระบวนการทำ QE เกี่ยวข้องกับการพิมพ์เงินของ BoE เพื่อเข้าซื้อสินทรัพย์ ซึ่งโดยปกติจะเป็นพันธบัตรรัฐบาลหรือพันธบัตรองค์กรที่ได้รับการจัดอันดับที่ AAA จากธนาคารและสถาบันการเงินอื่น ๆ การทำ QE มักจะส่งผลให้เงินปอนด์สเตอร์ลิงอ่อนค่าลง
 

การคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) คืออะไร และส่งผลต่อปอนด์สเตอร์ลิงอย่างไร?


การคุมเข้มเชิงปริมาณ (QT) เป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับการทำ QE ซึ่งจะประกาศใช้เมื่อเศรษฐกิจแข็งแกร่งขึ้นและอัตราเงินเฟ้อเริ่มสูงขึ้น ในขณะที่อยู่ในแผนทำ QE ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะซื้อพันธบัตรรัฐบาลและหุ้นกู้จากสถาบันการเงินเพื่อกระตุ้นให้พวกเขาปล่อยกู้ แล้วในการทำ QT ทาง BoE จะหยุดซื้อพันธบัตรเพิ่มและหยุดนําเงินต้นที่ครบกําหนดไปลงทุนในพันธบัตรที่ถืออยู่แล้ว โดยปกติจะเป็นปัจจัยบวกต่อปอนด์สเตอร์ลิง
 
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI