tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAG/USD พุ่งขึ้นเหนือ $33.50 ท่ามกลางการเก็บภาษีของทรัมป์ที่ใกล้เข้ามา

FXStreet2 เม.ย. 2025 เวลา 4:55
  • ราคาโลหะเงินปรับตัวขึ้นใกล้ $33.85 ในตลาดลงทุนเอเชียวันพุธ 
  • ความเชื่อมั่นที่มีต่อโลหะเงินยังคงอยู่เหนือเส้น EMA 100 วัน โดยมีดัชนี RSI แสดงสัญญาณขาขึ้น 
  • ระดับแนวต้านทันทีปรากฏที่ $34.23; ระดับแนวรับแรกที่ควรจับตามองคือ $32.92.

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ดึงดูดผู้ซื้อบางส่วนมาที่ประมาณ $33.85 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนยุโรปวันพุธ ความกังวลเกี่ยวกับแผนภาษีของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ขยายสงครามการค้าโลกและกระตุ้นการชะลอตัวทางเศรษฐกิจช่วยหนุนกระแสการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย ซึ่งสนับสนุนราคาโลหะเงิน นักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศภาษีตอบโต้ของประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ในวันพุธนี้ 

ในทางเทคนิค แนวโน้มขาขึ้นของโลหะเงินยังคงมีอยู่ เนื่องจากสินค้าโภคภัณฑ์ได้รับการสนับสนุนอย่างดีเหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 100 วันในกราฟรายวัน โมเมนตัมขาขึ้นได้รับการเสริมด้วยดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (RSI) 14 วัน ซึ่งอยู่เหนือเส้นกลางที่ประมาณ 57.80 แสดงถึงโมเมนตัมขาขึ้นในระยะสั้น 

เป้าหมายขาขึ้นแรกสำหรับโลหะเงินปรากฏที่ $34.23 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 18 มีนาคม การปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องอาจเห็นการวิ่งขึ้นไปที่โซน $34.60-$34.70 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของวันที่ 28 มีนาคมและขอบบนของ Bollinger Band ตัวกรองขาขึ้นเพิ่มเติมที่ควรจับตามองคือระดับจิตวิทยาที่ $35.00 

ในทางกลับกัน เป้าหมายขาลงแรกสำหรับราคาโลหะเงินอยู่ที่ $32.92 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวันที่ 25 มีนาคม การซื้อขายที่ต่ำกว่าระดับดังกล่าวอย่างต่อเนื่องอาจเห็นการลดลงไปยังระดับการต่อสู้ถัดไปที่ $31.86 ซึ่งเป็น EMA 100 วัน การขายที่ตามมาสามารถเปิดเผยถึง $30.82 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 

กราฟรายวันราคาโลหะเงิน (XAG/USD)

โลหะเงิน FAQs

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI