Investing.com — Moody’s ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ ในช่วงดึกของวันศุกร์ ส่งผลให้เกิดข่าวพาดหัวมากมายและตลาดมีราคาเปิดที่อ่อนแอในวันจันทร์
อย่างไรก็ตาม ตามรายงานล่าสุดของ Sevens Report การเคลื่อนไหวดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลต่อทิศทางตลาดในระยะยาว
"Moody’s ได้ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของหนี้สาธารณะสหรัฐฯ จาก Aaa เป็น Aa1 การปรับลดอันดับดังกล่าวส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนบางรายขายพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว" นักวิเคราะห์เขียน
หุ้นเปิดตลาดลดลงในวันจันทร์ แต่ Sevens เน้นย้ําว่าการปรับลดอันดับ "ไม่ได้เปิดเผยสิ่งใหม่"
Moody’s อ้างถึงความกังวลสองประการที่คุ้นเคย Sevens อธิบายว่าประการแรกคือ "การขาดความคืบหน้าจากรัฐสภาและรัฐบาลหลายชุดในอดีตในการแก้ไขปัญหาการขาดดุลงบประมาณที่เพิ่มขึ้น" และประการที่สองคือ "ต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบเป็นร้อยละของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ"
แต่ Sevens เรียกช่วงเวลาของการปรับลดอันดับว่าน่าสงสัย: "การปรับลดอันดับหนี้สหรัฐฯ เนื่องจากการขาดดุลที่ใหญ่ขึ้นและต้นทุนดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นเป็นเรื่องเทียบเท่ากับการพูดว่า ’น้ําเปียก’"
การปรับลดอันดับนี้เกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวที่คล้ายคลึงกันจาก S&P ในปี 2011 และ Fitch ในปี 2023
Sevens กล่าวว่า "ไม่มีการเสื่อมถอยอย่างรุนแรงเกิดขึ้นในช่วงหลังๆ" และสังเกตว่าความกลัวเชิงคาดการณ์ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายที่อาจเกิดขึ้น "ไม่ได้เป็นเหตุผลที่สมควรสําหรับการปรับลดอันดับ"
แม้ว่าการปรับลดอันดับอาจกดดันหุ้นในระยะสั้น แต่ Sevens มองเห็นผลกระทบระยะยาวเพียงเล็กน้อย
"สถานการณ์การคลังที่เสื่อมถอยไม่ได้หยุดหุ้นจากการปรับตัวขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาและไม่น่าจะเปลี่ยนแปลงในเร็วๆ นี้"
บริษัทเชื่อว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลที่เพิ่มขึ้นอาจกดดันหุ้น แต่ "พวกมันจะเพิ่มขึ้นเป็นหลักเนื่องจากการคาดการณ์เกี่ยวกับการเติบโตและเงินเฟ้อ ไม่ใช่เป็นปฏิกิริยาต่อการปรับลดอันดับของ Moody’s"
Sevens กล่าวว่าตลาดจะถูกขับเคลื่อนแทนโดย "1) นโยบายภาษี (การลดภาษีศุลกากรเพิ่มเติม) 2) การเติบโตทางเศรษฐกิจ (สหรัฐฯ สามารถหลีกเลี่ยงการชะลอตัวได้หรือไม่) และ 3) นโยบายของธนาคารกลาง (พวกเขาจะลดอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าหรือไม่?)"
สําหรับภาพรวมทางการคลัง "เส้นทางการคลังของสหรัฐฯ ไม่ยั่งยืนตลอดไป" Sevens เตือน แต่เสริมว่า "มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทําให้คุณไม่อยู่ในตลาดในอนาคตอันใกล้"
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน