Investing.com — UBS ได้ปรับอันดับหุ้น Bechtle เป็น "ซื้อ" จาก "การคงสัดส่วนการลงทุน" โดยชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัวในตลาดหลักเยอรมนีและความคาดหวังในการเติบโตที่แข็งแกร่งขึ้น
ตามนักวิเคราะห์ของธนาคาร ไตรมาสแรกถือเป็นจุดต่ําสุดในการดําเนินงานของ Bechtle โดยมีคําสั่งซื้อจากภาครัฐที่ดีขึ้นและวงจรการฟื้นตัวของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลที่สนับสนุนการฟื้นตัว
"เราเห็นเหตุผลมากมายที่ทําให้ชอบหุ้นในวันนี้" นักวิเคราะห์นําโดย Christopher Tong เขียน โดยเน้นย้ําว่าคําสั่งซื้อในเดือนเมษายนเพิ่มขึ้นเป็นสองหลัก และการมีเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของเยอรมนีควรเป็นตัวเร่งการใช้จ่ายด้านไอที
รายงานยังเน้นย้ําว่า Bechtle มีแนวโน้มที่จะได้รับประโยชน์จากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 500 พันล้านยูโรของเยอรมนี
"กองทุนโครงสร้างพื้นฐานมูลค่า 500 พันล้านยูโรของเยอรมนี ซึ่งการดิจิทัลเป็นส่วนหนึ่ง จะเป็นแรงสนับสนุนที่สําคัญสําหรับ Bechtle ซึ่งสร้างรายได้ประมาณ 60% ของปีงบประมาณ 2024 จากเยอรมนี" นักวิเคราะห์ระบุ
พร้อมกับการปรับอันดับ UBS ยังเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 45 ยูโรจาก 37.50 ยูโร ซึ่งหมายถึงอัตราส่วนราคาต่อกําไร (P/E) ปี 2026 ที่ 20 เท่า
บริษัทเชื่อว่าตลาดยังไม่ได้คํานวณศักยภาพการเติบโตของ Bechtle อย่างเต็มที่ โดยประมาณการอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ของรายได้ที่ 5.9% สําหรับปี 2025-2029 ตามระดับการประเมินมูลค่าในปัจจุบัน เทียบกับการคาดการณ์ของ UBS ที่ 7.7%
ในขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 1 อ่อนแอ โดยรายได้จากการเติบโตแบบออร์แกนิกลดลง 5% UBS ชี้ให้เห็นถึงสัญญาณการฟื้นตัว โดยเฉพาะในเดือนเมษายน และคาดว่าการดําเนินงานจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง
วงจรการเปลี่ยนคอมพิวเตอร์ใหม่ยังถูกมองว่าเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตในระยะใกล้ ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี Microsoft (NASDAQ:MSFT) กล่าวต่อสาธารณะว่า "ในเยอรมนี อุปกรณ์ประมาณ 9 ล้านเครื่องต้องถูกเปลี่ยนเพราะคุณไม่สามารถใช้ Windows 11 กับพวกมันได้"
บันทึกระบุว่าการเปิดรับภาครัฐของ Bechtle และรัฐบาลใหม่ในเยอรมนีควรยกระดับความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายเพิ่มเติม UBS ยังเห็นโอกาสเติบโตเกินกว่าแนวทางรายได้ทั้งปีของ Bechtle ที่อยู่ในช่วง -3% ถึง +3% สําหรับการเติบโตแบบออร์แกนิก โดยมองว่า "เป็นการอนุรักษ์นิยมเมื่อพิจารณาถึงการฟื้นตัวตามวัฏจักรและรากฐานการเติบโตเชิงโครงสร้างที่แข็งแกร่ง"
"เมื่อพิจารณาถึงการกลับมาเติบโตสู่ค่าเฉลี่ยในอดีต เราไม่คิดว่าตลาดกําลังคํานวณโอกาสนี้อย่างเต็มที่ โดยหุ้นซื้อขายต่ํากว่า P/E ในอดีตที่ 23 เท่าอยู่ 17%" นักวิเคราะห์กล่าว
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน