Investing.com — หลังจากที่หุ้นปัญญาประดิษฐ์ปรับตัวลดลงในปีนี้ Christopher Harvey จาก Wells Fargo กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่าอาจถึงเวลาที่นักลงทุนควรกลับเข้าไปลงทุนในกลุ่มนี้อีกครั้ง
ในบทวิเคราะห์ที่มีชื่อว่า "ถึงเวลากลับมาลงทุนในหุ้น AI" Harvey เขียนว่า "การปรับฐานตั้งแต่ต้นปีได้เผยให้เห็นมูลค่าในกลุ่มหุ้น AI Picks&Shovels" ซึ่งหมายถึงผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐานและบริการที่ขับเคลื่อนระบบนิเวศ AI
"ความเสี่ยงและผลตอบแทนของกลุ่มนี้ในปัจจุบันน่าดึงดูดมากกว่าเมื่อปีที่แล้วมาก" เขากล่าว
Harvey เปรียบเทียบวัฏจักรการลงทุนในปัจจุบันกับโอกาสในหุ้นกลุ่มบริการสื่อสารในปี 2022 โดยเน้นย้ําถึงปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งและศักยภาพในระยะยาว
"เรายังคงอยู่ในวัฏจักรการลงทุน AI ที่ยั่งยืน" เขาเขียน พร้อมเสริมว่าความต้องการยังคงมากกว่าอุปทาน ดังที่เห็นได้จากผลประกอบการล่าสุดของ Microsoft และแผนการลงทุนของ Meta
"นี่ไม่ใช่วัฏจักรเทคโนโลยีแบบเดิม ๆ" Harvey กล่าว ต่างจากยุคฟองสบู่ดอทคอม การลงทุนด้าน AI ในปัจจุบันขับเคลื่อนโดย "บริษัทที่มีกําไรและงบดุลที่แข็งแกร่ง" ไม่ใช่บริษัทเก็งกําไรที่มีฐานะการเงินอ่อนแอ
เขาชี้ให้เห็นถึง "วัฏจักรที่พึ่งพาซึ่งกันและกัน" ระหว่างโครงสร้างพื้นฐาน AI และแอปพลิเคชัน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความสําคัญเชิงกลยุทธ์ระดับชาติและวงจรการปรับปรุงผลิตภัณฑ์ที่เร็วขึ้น
การลงทุนใน AI ยังดูเหมือนจะต้านทานภาวะเศรษฐกิจถดถอยได้ดีกว่า "การก่อสร้างศูนย์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการลงทุนของบริษัทไฮเปอร์สเกลเลอร์มีระยะเวลานําหลายปี" Harvey เขียน โดยอ้างว่าบริษัทที่เกี่ยวข้องกับ AI "มีความเสี่ยงน้อยกว่าต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่อาจเกิดขึ้น"
เขาคาดว่าการลงทุนจะเข้ามาแทนที่ต้นทุนการดําเนินงานมากขึ้นเมื่อ AI เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
Harvey ยังปัดความกังวลเกี่ยวกับภาษีนําเข้าที่เพิ่มขึ้น โดยกล่าวว่าห่วงโซ่อุปทาน AI ของสหรัฐฯ ยังคงได้รับการปกป้องเป็นส่วนใหญ่ "GPU และเซิร์ฟเวอร์สําเร็จรูปเป็นสินค้าที่สอดคล้องกับข้อตกลง USMCA" และเม็กซิโกมีสัดส่วนถึงสองในสามของการนําเข้าเซิร์ฟเวอร์ของสหรัฐฯ โดยยังมีโอกาสเติบโตได้อีก
หลังจากการปรับตัวลดลงประมาณ 29% จากจุดสูงสุดล่าสุด Harvey กล่าวว่าหุ้น AI หลายตัวซื้อขายในระดับใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของตลาดมากขึ้น แต่ยังคงมี "ความคาดหวังการเติบโตระดับพรีเมียม"
Wells Fargo ได้แนะนําพอร์ตการลงทุน "AI Picks&Shovels" จํานวน 25 หุ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากแนวโน้มนี้ โดยมีชื่อต่าง ๆ รวมถึง Nvidia (NASDAQ:NVDA), Broadcom (NASDAQ:AVGO), Taiwan Semiconductor, AMD (NASDAQ:AMD), GE Vernova, Marvell (NASDAQ:MRVL) Technology และ Dell Technologies (NYSE:DELL)
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน