Investing.com — การส่งออกของจีนมีแนวโน้มที่จะแย่ลงท่ามกลางสงครามการค้าที่รุนแรงกับสหรัฐอเมริกา นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าวในบันทึกเมื่อวันอังคาร แต่ดุลการค้าของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งส่วนเกินดุลการค้าที่มหาศาล อาจได้รับผลกระทบน้อยกว่า
ANZ กล่าวว่าการส่งออกของจีนไปยังสหรัฐอเมริกาได้เพิ่มความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ ซึ่งโดยหลักการแล้วอาจทําให้การส่งออกมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยกว่าสินค้าที่นําเข้าจากสหรัฐอเมริกา
ภาษีการค้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ยังมองข้ามภาคบริการเป็นส่วนใหญ่ ANZ ระบุ โดยมาตรการตอบโต้ของจีนที่จํากัดการส่งออกบริการของสหรัฐฯ อาจส่งผลให้ส่วนเกินดุลภาคบริการของสหรัฐฯ กับปักกิ่งลดลง
"ในขณะที่จีนยังคงยกระดับขีดความสามารถในการผลิต การวิเคราะห์หลายฉบับได้ระบุว่าตะกร้าการส่งออกของจีนกําลังเปลี่ยนไปสู่ส่วนผสมที่ซับซ้อนมากขึ้นและมีความอ่อนไหวต่อราคาน้อยลงในห่วงโซ่อุปทานโลกสมัยใหม่" นักวิเคราะห์ของ ANZ เขียนในบันทึก
ANZ ระบุว่าดัชนีความซับซ้อนของผลิตภัณฑ์ของจีน ซึ่งเป็นเครื่องวัดว่ามีประเทศกี่ประเทศที่สามารถผลิตสินค้าชนิดเดียวกันและความซับซ้อนทางเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้น เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 0.50 ในปี 2024 จาก 0.23 ในปี 2000 ทําให้การส่งออกของปักกิ่งมีความอ่อนไหวต่อภาษีการค้าน้อยลงเมื่อเทียบกับภาษีสินค้าของสหรัฐฯ
"ผลิตภัณฑ์สําเร็จรูปที่จีนส่งออกไปยังสหรัฐฯ มีความซับซ้อนค่อนข้างสูงโดยมีค่า PCI เป็นบวก ซึ่งหมายความว่ามีประเทศน้อยกว่าที่สามารถผลิตสินค้าชนิดเดียวกันได้ และประเทศผู้ส่งออกต้องมีเครือข่ายห่วงโซ่อุปทานที่ซับซ้อนมากขึ้น" นักวิเคราะห์ของ ANZ กล่าว
สิ่งนี้อาจทําให้ส่วนเกินดุลการค้าขนาดใหญ่ของจีนกับสหรัฐอเมริกายังคงอยู่เหมือนเดิม แม้ว่าทรัมป์จะพยายามลดการขาดดุลนี้ด้วยภาษีของเขา
รอบล่าสุดของภาษีการค้ายังส่งผลให้ส่วนเกินดุลภาคบริการของสหรัฐฯ กับจีนลดลง ปัจจัยขับเคลื่อนที่สําคัญคือการท่องเที่ยวและการศึกษาของชาวจีนในสหรัฐฯ ซึ่งปักกิ่งดูเหมือนจะกําลังปราบปรามในขณะนี้
ทรัมป์ขึ้นภาษีจีนสูงถึง 245% ในขณะที่จีนตอบโต้ด้วยภาษี 125% โดย ANZ ระบุว่าความตึงเครียดได้ขยายไปไกลกว่าการค้าสินค้าสู่ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ANZ ระบุว่าทั้งสหรัฐอเมริกาและจีนอาจเปิดกว้างต่อการเจรจามากขึ้นหลังจากเห็นความเสียหายทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้าในความเป็นจริง ANZ ได้ปรับลดการคาดการณ์การเติบโตทั้งของสหรัฐอเมริกาและจีน
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน