Investing.com — ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ กําลังวางรากฐานเพื่อโทษธนาคารกลางสหรัฐฯ ภายใต้การนําของเจอโรม พาวเวลล์ สําหรับความอ่อนแอทางเศรษฐกิจที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายภาษีการค้าของเขา นิค ทิมิราออส จาก Wall Street Journal เขียนเมื่อวันจันทร์
ทิมิราออสกล่าวว่า ทรัมป์กําลังส่งสัญญาณว่าเขาจะโทษเฟดหากธนาคารกลางไม่ยอมตามความต้องการของเขาในการลดอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆ นี้ ซึ่งกระบวนการนี้อาจทําลายความน่าเชื่อถือของความเป็นอิสระของธนาคารกลางด้วย
ความเห็นของทิมิราออสเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์ได้โจมตีเฟดและประธานพาวเวลล์ผ่านโซเชียลมีเดีย โดยเรียกเขาว่า "ผู้แพ้รายใหญ่" และ "นายสายเกินไป" พร้อมเรียกร้องให้พาวเวลล์ลดอัตราดอกเบี้ยโดยเร็ว
ทรัมป์เตือนว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ อาจชะลอตัวหากเฟดไม่ลดดอกเบี้ย และอ้างว่า "แทบไม่มีเงินเฟ้อเลย" เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเขายังเรียกร้องให้ปลดพาวเวลล์อีกด้วย
พาวเวลล์ได้รับการแต่งตั้งโดยทรัมป์ในสมัยแรกของเขา และจะดํารงตําแหน่งประธานเฟดจนถึงเดือนพฤษภาคม 2026
ทิมิราออส ผู้ได้รับฉายา "คนกระซิบเฟด" จากการทํานายการตัดสินใจเรื่องอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางได้อย่างแม่นยําทุกครั้งตั้งแต่ปี 2022 เตือนว่าแม้ทรัมป์จะไม่สามารถปลดพาวเวลล์ได้ แต่ความพยายามของเขาในการทําลายความน่าเชื่อถือของพาวเวลล์อาจสร้างความเสียหายระยะยาวต่อสถานะของเฟด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าธนาคารกลางพยายามรักษาความเป็นกลางมาโดยตลอด
ทรัมป์เคยกดดันพาวเวลล์ในสมัยแรกของเขาให้หยุดขึ้นอัตราดอกเบี้ยและให้ลดลง แต่ทิมิราออสกล่าวว่าสถานการณ์ทางเศรษฐกิจในครั้งนี้ดูเหมือนจะแตกต่างออกไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาว่าเงินเฟ้อเป็นปัญหาที่ใหญ่กว่ามากในปัจจุบัน
จนถึงขณะนี้ พาวเวลล์แทบไม่ได้แสดงความตั้งใจที่จะลดอัตราดอกเบี้ย โดยล่าสุดเขาได้ชี้ให้เห็นถึงความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากภาษีการค้าของทรัมป์ที่มีต่อคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ พาวเวลล์เตือนว่าภาษีเหล่านี้ ซึ่งรวมถึงภาษี 145% กับจีน อาจทําให้เกิดการเพิ่มขึ้นของเงินเฟ้อในระยะยาว
การโจมตีพาวเวลล์ครั้งล่าสุดของทรัมป์ส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลง ขณะที่ยังกระทบต่อค่าเงินดอลลาร์และผลักดันให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสูงขึ้น
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน