tradingkey.logo

ดุลการค้าจีนเติบโตเกินคาดในเดือนมีนาคม ท่ามกลางสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่ร้อนแรงขึ้น

Investing.com14 เม.ย. 2025 เวลา 3:56

Investing.com — ดุลการค้าของจีนเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม โดยได้รับแรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นอย่างมากของการส่งออก ซึ่งเป็นผลมาจากการเร่งส่งสินค้าก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะบังคับใช้ภาษีนําเข้าในอัตราสูงกับประเทศจีน

ดุลการค้าเพิ่มขึ้นสู่ระดับเกินดุล 102.64 พันล้านดอลลาร์ในเดือนมีนาคม ตามข้อมูลจากรัฐบาลที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 74.30 พันล้านดอลลาร์

การเกินดุลการค้าในระดับสูงนี้มีสาเหตุหลักมาจากการส่งออกที่พุ่งขึ้น 12.4% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ไว้ที่ 4.4% อย่างมาก

การเพิ่มขึ้นของการส่งออกนี้น่าจะสะท้อนถึงการเร่งส่งสินค้าของผู้ส่งออกจีน โดยพวกเขาเร่งส่งสินค้าจํานวนมากไปต่างประเทศก่อนที่สหรัฐอเมริกาจะบังคับใช้ภาษีนําเข้าในอัตราสูงกับจีนในช่วงต้นเดือนเมษายน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกาได้กําหนดภาษีนําเข้า 20% กับจีนในช่วงต้นเดือนมีนาคม เนื่องจากบทบาทที่ถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการไหลเข้าของยาเฟนทานิลสู่สหรัฐอเมริกา

แต่ภาษี 20% นี้เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาษีในอัตราสูงที่ทรัมป์เรียกเก็บจากจีนในสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อสงครามการค้าระหว่างประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกทั้งสองประเทศทวีความรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็ว ทรัมป์ได้เพิ่มภาษีกับจีนรวมเป็น 145% ซึ่งสร้างความไม่พอใจและการตอบโต้จากปักกิ่ง โดยจีนได้กําหนดภาษี 125% กับสินค้าอเมริกัน

จีนยังได้กําหนดภาษีตอบโต้ 20% กับการนําเข้าจากสหรัฐอเมริกาในเดือนมีนาคมอีกด้วย

สิ่งนี้น่าจะสะท้อนให้เห็นในการนําเข้าของจีนที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนนี้ ซึ่งลดลง 4.3% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ต่ํากว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะลดลง 2% ตามข้อมูลที่เปิดเผยเมื่อวันจันทร์

แต่การนําเข้าที่อ่อนแอของจีนยังสะท้อนถึงความต้องการภายในประเทศที่ซบเซา ขณะที่เศรษฐกิจใหญ่อันดับสองของโลกกําลังเผชิญกับการเติบโตที่ชะลอตัว ซึ่งมีแนวโน้มลดลงแม้กระทั่งก่อนที่จะเกิดสงครามการค้ากับสหรัฐอเมริกา

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI