tradingkey.logo

Goldman Sachs ปรับเพิ่มเป้าราคาทองคำปี 2025 เป็น $3,700/ออนซ์

Investing.com14 เม.ย. 2025 เวลา 1:56

Investing.com — Goldman Sachs ปรับเพิ่มมุมมองราคาทองคําเป็น $3,700 ต่อออนซ์ โดยระบุว่าความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทวีความรุนแรง ทําให้โลหะสีเหลืองดูน่าดึงดูดมากขึ้นในฐานะเครื่องป้องกันภาวะเศรษฐกิจถดถอย

Goldman Sachs ปรับเพิ่มเป้าราคาทองคําเป็น $3,700/ออนซ์ ภายในสิ้นปี 2025 ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มครั้งที่สามในปีนี้ ก่อนหน้านี้ในเดือนมีนาคม ธนาคารเพื่อการลงทุนได้ปรับเพิ่มเป้าราคาทองคําปี 2025 เป็น $3,300/ออนซ์

Goldman Sachs เตือนว่าในกรณีความเสี่ยงสูงสุด ราคาทองคําอาจพุ่งสูงถึง $4,500/ออนซ์ ภายในสิ้นปี 2025

ธนาคารเพื่อการลงทุนระบุในบันทึกลงวันศุกร์ว่า กําลังป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ที่เพิ่มขึ้นด้วยทองคํา โดยสังเกตว่าทั้งกองทุน ETF และความต้องการทองคําแท่งได้เพิ่มขึ้นในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา

สิ่งนี้เกิดขึ้นในขณะที่สหรัฐฯ กําลังเผชิญกับสงครามการค้ากับจีนที่ทวีความรุนแรงอย่างรวดเร็วในสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ปรับเพิ่มภาษีนําเข้าสินค้าจากจีนรวมเป็น 145% ซึ่งได้รับการตอบโต้อย่างรุนแรงจากปักกิ่ง รวมถึงการที่จีนเก็บภาษีสินค้าอเมริกันสูงถึง 125%

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ยังได้วางแผนเก็บภาษี "ตอบโต้" อย่างรุนแรงกับประเทศคู่ค้าหลักของสหรัฐฯ แม้ว่าเขาจะเลื่อนการบังคับใช้ออกไป 90 วัน แต่ทรัมป์ยังคงเก็บภาษีทั่วไป 10% และยังกล่าวว่าการเก็บภาษีเฉพาะเจาะจงสําหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และเภสัชภัณฑ์จะมาในเร็วๆ นี้

สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ทวีความรุนแรงทําให้ราคาทองคําพุ่งสูงถึงระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ $3,245.69/ออนซ์ในสัปดาห์ที่แล้ว โดยความต้องการทองคําแท่งและ ETF ยังคงอยู่ในระดับสูง

ธนาคารกลางหลักของโลกหลายแห่ง โดยเฉพาะในเอเชีย ได้เพิ่มการซื้อทองคําในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สิ่งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความกังวลที่เพิ่มขึ้นเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจภายใต้การนําของทรัมป์

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI