tradingkey.logo

JPMorgan, Morgan Stanley, Wells Fargo ปรับตัวขึ้นก่อนเปิดตลาด; Tesla ลดลง

Investing.com11 เม.ย. 2025 เวลา 12:10

Investing.com — ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ซื้อขายผันผวนในวันศุกร์หลังจากจีนเพิ่มภาษีสินค้าสหรัฐฯ อีกครั้ง ทําให้สงครามการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลกทวีความรุนแรงขึ้น

ต่อไปนี้คือหุ้นที่เคลื่อนไหวมากที่สุดในก่อนเปิดตลาดสหรัฐฯ วันนี้:

  • JPMorgan Chase (NYSE:JPM) หุ้นปรับตัวขึ้น 2% หลังจากยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนรายงานกําไรไตรมาสแรกที่เกินความคาดหมายจากรายได้ที่แข็งแกร่งกว่าที่คาด แต่ CEO Jamie Dimon แสดงความระมัดระวังเกี่ยวกับเศรษฐกิจในภาพรวม

  • Morgan Stanley (NYSE:MS) หุ้นเพิ่มขึ้น 1.5% หลังจากธนาคารเพื่อการลงทุนทํากําไรรายไตรมาสได้เหนือความคาดหมายจากรายได้ที่มั่นคงจากธุรกิจวาณิชธนกิจและการบริหารความมั่งคั่ง

  • Wells Fargo (NYSE:WFC) หุ้นปรับตัวขึ้น 1.4% หลังจากผู้ให้กู้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรกแบบผสม โดยทํากําไรได้เกินความคาดหมายแต่รายได้ต่ํากว่าคาดเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นส่งผลกระทบต่อธุรกิจ

  • BlackRock (NYSE:BLK) หุ้นปรับตัวขึ้น 1.3% หลังจากสินทรัพย์ภายใต้การบริหารของผู้จัดการเงินทุนรายใหญ่ที่สุดในโลกเพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในไตรมาสแรก แต่บริษัทมีกําไรลดลง 4% ท่ามกลางความผันผวนในตลาดการเงิน

  • Bank of NY Mellon (NYSE:BK) หุ้นปรับตัวขึ้น 2.5% หลังจากผู้ให้กู้รายงานกําไรไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 17% เนื่องจากมีสินทรัพย์ภายใต้การดูแลที่สูงขึ้นซึ่งช่วยเพิ่มรายได้ค่าธรรมเนียม

  • Apple (NASDAQ:AAPL) หุ้นปรับตัวขึ้น 0.2% ฟื้นตัวหลังจากขาดทุนกว่า 12% ในช่วงเดือนที่ผ่านมาเนื่องจากสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ทวีความรุนแรงขึ้น

  • Tesla (NASDAQ:TSLA) หุ้นลดลง 0.4% หลังจากผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าดูเหมือนจะระงับการรับคําสั่งซื้อใหม่สําหรับรถนําเข้ารุ่น Model S และ Model X บนเว็บไซต์ในจีนเมื่อวันศุกร์

  • Verizon (NYSE:VZ) หุ้นปรับตัวขึ้น 1% หลังจาก Evercore ISI ปรับเพิ่มมุมมองต่อยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมเป็น "outperform" จาก "in line" โดยอ้างถึงลักษณะการป้องกันความเสี่ยง การมุ่งเน้นตลาดในประเทศ และการมีความเสี่ยงต่อภาษีศุลกากรที่ค่อนข้างจํากัด

  • American Express (NYSE:AXP) หุ้นปรับตัวขึ้น 0.7% หลังจาก Bank of America ปรับเพิ่มมุมมองต่อยักษ์ใหญ่บัตรเครดิตเป็น "buy" จาก "neutral" โดยระบุว่าการปรับตัวลงในปัจจุบันเป็นโอกาสในการซื้อบริษัทคุณภาพสูงในราคาที่สมเหตุสมผล

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI