Investing.com — เงินเฟ้อผู้บริโภคของจีนหดตัวมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมีนาคม สะท้อนให้เห็นถึงแรงกดดันต่อการใช้จ่ายในประเทศจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ ที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เงินเฟ้อผู้ผลิตก็ลดลงเช่นกัน
ดัชนีราคาผู้บริโภคลดลง 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อนในเดือนมีนาคม ตามข้อมูลของรัฐบาลที่เปิดเผยเมื่อวันพฤหัสบดี ตัวเลขดังกล่าวแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าเงินเฟ้อจะคงที่หลังจากลดลง 0.7% ในเดือนกุมภาพันธ์
CPI หดตัว 0.4% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะหดตัว 0.2%
ตัวเลขเงินเฟ้อที่อ่อนแอลงสะท้อนถึงแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจีนจากการเพิ่มภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ได้ปรับขึ้นภาษีสินค้าจีนเป็น 20% ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ซึ่งนําไปสู่การตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีจากปักกิ่ง
ภาษีนําเข้ามักจะตกเป็นภาระของผู้นําเข้าในประเทศ โดยภาษีที่ปักกิ่งเรียกเก็บจากสหรัฐฯ อาจส่งผลกระทบต่อการใช้จ่ายในประเทศ
การแลกเปลี่ยนการขึ้นภาษีดูเหมือนจะหักล้างแรงหนุนบางส่วนสําหรับการบริโภคในประเทศจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเชิงรุกของจีนที่ทยอยออกมาตั้งแต่ปลายปี 2024
สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนยังเห็นการยกระดับครั้งสําคัญในสัปดาห์นี้ โดยทรัมป์ได้เพิ่มภาษีจีนเป็น 125% ซึ่งไม่เคยมีมาก่อน ปักกิ่งตอบโต้ด้วยการเก็บภาษี 84% กับสินค้าสหรัฐฯ และขู่ว่าจะมีการดําเนินการเพิ่มเติม
ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนเมษายนน่าจะให้สัญญาณเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลกระทบของการขึ้นภาษีที่สูงขึ้น เช่นเดียวกับข้อมูลการค้าที่จะเผยแพร่ในช่วงหลังของเดือนเมษายน
เงินเฟ้อผู้ผลิตของจีนหดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 30 ขณะที่ธุรกิจในประเทศยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดัน โดยสงครามการค้าที่กําลังก่อตัวจะสร้างแรงกดดันเพิ่มเติมให้กับภาคส่วนที่พึ่งพาการส่งออกเป็นหลัก
ดัชนีราคาผู้ผลิตหดตัว 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อนในเดือนมีนาคม มากกว่าที่คาดการณ์ว่าจะลดลง 2.3% และแย่ลงจากการลดลง 2.2% ที่เห็นในเดือนกุมภาพันธ์
เงินเฟ้อผู้ผลิตลดลงอย่างต่อเนื่องท่ามกลางความต้องการสินค้าจีนที่อ่อนแอทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้นก็ไม่สามารถหยุดแนวโน้มนี้ได้
บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน