tradingkey.logo

ตลาดไม่ควรพึ่งพาอารมณ์ยามเช้าของทรัมป์ กล่าวโดยราชาบอนด์ บิล กรอสส์

Investing.com9 เม.ย. 2025 เวลา 20:17

Investing.com — นักลงทุนบอนด์ระดับตํานาน บิล กรอสส์ ได้วิจารณ์ความผันผวนของตลาดหุ้นอย่างตรงไปตรงมาเมื่อวันพุธ ในขณะที่หุ้นสหรัฐฯ พุ่งขึ้นหลังจากโพสต์บนโซเชียลมีเดียจากประธานาธิบดีทรัมป์ที่ประกาศหยุดการเก็บภาษีศุลกากรส่วนใหญ่เป็นเวลา 90 วัน

"พอร์ตโฟลิโอหุ้นเชิงรับของผมเป็นสีเขียว ผมจึงไม่ได้รู้สึกขุ่นเคืองกับตลาดในวันนี้" กรอสส์เขียนในโพสต์บน X

"แต่ผมขอถามคุณ คุณอยากเป็นเจ้าของหุ้นสหรัฐฯ ที่มีความผันผวนสูงซึ่งราคาขึ้นอยู่กับว่าประธานาธิบดีสหรัฐฯ นอนหลับสบายดีหรือไม่ และตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้นเพื่อกลับนโยบายของเมื่อวานหรือไม่?"

ความเห็นของเขาเกิดขึ้นในขณะที่ตลาดมีการฟื้นตัวอย่างรุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ดัชนีหลักทั้งสามพุ่งขึ้นหลังจากทรัมป์โพสต์บน Truth Social ว่า "มากกว่า 75 ประเทศ" ได้ติดต่อสหรัฐฯ เพื่อเจรจาเรื่องภาษีศุลกากรและไม่ได้ตอบโต้ ทําให้เขาอนุมัติการหยุดทันทีเป็นเวลา 90 วันและลดอัตราภาษีศุลกากรตอบโต้เหลือ 10%

โพสต์ดังกล่าวลบล้างการขาดทุนก่อนหน้านี้และเพิ่มมูลค่าตลาดประมาณ 4.8 พันล้านดอลลาร์ภายในช่วงบ่าย ความผันผวนได้กําหนดการซื้อขาย เนื่องจากหุ้นแกว่งตัวท่ามกลางความไม่แน่นอนเกี่ยวกับนโยบายภาษีศุลกากร

ก่อนหน้านี้ จีนตอบสนองต่อการกระทําของสหรัฐฯ โดยเพิ่มภาษีศุลกากรสําหรับสินค้านําเข้าจากอเมริกาเป็น 84% และทรัมป์ตอบโต้โดยเพิ่มอัตราภาษีศุลกากรของจีนเป็น 125%

แม้จะมีการรับรองจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง สก็อตต์ เบสเซนท์ ว่าเศรษฐกิจ "อยู่ในสภาพที่ค่อนข้างดี" ผู้สังเกตการณ์ตลาดอย่างกรอสส์ยังคงระมัดระวังเกี่ยวกับความไม่แน่นอนของนโยบายที่ขับเคลื่อนการเคลื่อนไหวของราคารายวัน

กรอสส์เป็นนักลงทุนบอนด์ระดับตํานานและผู้ร่วมก่อตั้ง PIMCO ซึ่งเขาบริหารกองทุนบอนด์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเป็นเวลาหลายทศวรรษ มักถูกเรียกว่า "ราชาบอนด์" กรอสส์มีบทบาทสําคัญในการกําหนดรูปแบบการลงทุนในตราสารหนี้สมัยใหม่และเป็นที่ติดตามอย่างกว้างขวางสําหรับข้อมูลเชิงลึกทางเศรษฐกิจมหภาคและความคิดเห็นเกี่ยวกับตลาด

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI