tradingkey.logo

Apple, JPMorgan, Alibaba, Tesla และ Caterpillar ร่วงในช่วงก่อนเปิดตลาด

Investing.com4 เม.ย. 2025 เวลา 12:11

Investing.com — ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวลดลงต่อเนื่องในวันศุกร์ เพิ่มเติมจากการร่วงลงอย่างรุนแรงในเซสชั่นก่อนหน้า หลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศมาตรการภาษีนําเข้าอย่างกว้างขวาง ซึ่งมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก

ต่อไปนี้คือหุ้นที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงก่อนเปิดตลาดของสหรัฐฯ วันนี้:

  • Alibaba (NYSE:BABA) หุ้นร่วงลง 9.6%, PDD Holdings (NASDAQ:PDD) ลดลง 9%, Baidu (NASDAQ:BIDU) ร่วงลง 7.4% และ JD.com (NASDAQ:JD) ลดลง 10% หลังจากจีนประกาศเก็บภาษีนําเข้า 34% สําหรับสินค้าทั้งหมดจากสหรัฐอเมริกา เพื่อตอบโต้หลังจากสหรัฐฯ เก็บภาษีสินค้าจีน

  • บริษัทที่มีการเปิดรับความเสี่ยงในจีนสูงได้รับผลกระทบอย่างหนัก โดย Qualcomm (NASDAQ:QCOM) ลดลง 6.1% และ Caterpillar (NYSE:CAT) ลดลง 6.8%

  • Tesla (NASDAQ:TSLA) หุ้นลดลง 6.4% หลังจากยอดส่งมอบรถในไตรมาสแรกลดลงสู่ระดับต่ําสุดในรอบเกือบสามปี ซึ่ง JPMorgan ระบุว่าเป็นการยืนยัน "ความเสียหายต่อแบรนด์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน" ที่เชื่อมโยงกับบทบาทของซีอีโอ อีลอน มัสก์ ในกรมประสิทธิภาพของรัฐบาล
  • หุ้น Apple (NASDAQ:AAPL) ดิ่งลง 5.5% ยังคงลดลงต่อเนื่องเนื่องจากผู้ผลิต iPhone มีความเสี่ยงอย่างมีนัยสําคัญจากการมีศูนย์การผลิตหลักในจีน

  • หุ้นธนาคารร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น Morgan Stanley (NYSE:MS) ลดลง 6.6%, Goldman Sachs (NYSE:GS) ลดลง 7% ในขณะที่ Citigroup (NYSE:C) ลดลง 6.2% และ JPMorgan Chase (NYSE:JPM) ลดลง 6.4%

  • หุ้น GameStop (NYSE:GME) ลดลง 1% พลิกกลับจากการเพิ่มขึ้นก่อนหน้านี้ หลังจากซีอีโอ Ryan Cohen เปิดเผยการซื้อหุ้นเพิ่มอีก 500,000 หุ้นของบริษัท ซึ่งเป็นสัญญาณแสดงความเชื่อมั่นอย่างมากในอนาคตของผู้ค้าปลีกเกมวิดีโอ

  • หุ้น Stellantis (NYSE:STLA) ลดลง 6.9% หลังจากผู้ผลิตรถ Jeep ประกาศหยุดการผลิตที่โรงงานประกอบสองแห่งในแคนาดาและเม็กซิโก ในขณะที่บริษัทพยายามรับมือกับภาษีนําเข้ารถยนต์รอบใหม่

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI