tradingkey.logo

Apple, Nvidia, Nike, Five Below และ RH ร่วงแรงในช่วงก่อนเปิดตลาด

Investing.com3 เม.ย. 2025 เวลา 12:11

Investing.com — ฟิวเจอร์สหุ้นสหรัฐฯ ดิ่งลงในวันพฤหัสบดี หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยืนยันการเรียกเก็บภาษีนําเข้าในวงกว้าง ซึ่งมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อการค้าโลกและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ

ต่อไปนี้คือหุ้นสหรัฐฯ ที่มีการเคลื่อนไหวมากที่สุดในช่วงก่อนเปิดตลาดวันนี้:

  • Apple (NASDAQ:AAPL) ราคาหุ้นร่วงลง 7.4% หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศใช้มาตรการภาษีนําเข้าที่ใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ ในรอบศตวรรษ โดยผู้ผลิต iPhone รายนี้มีความเสี่ยงสูงเนื่องจากมีฐานการผลิตสําคัญในจีน

  • Nvidia (NASDAQ:NVDA) ราคาหุ้นลดลง 5.8% แม้ว่าทําเนียบขาวจะระบุว่าภาษีนําเข้าจากไต้หวันจะไม่ครอบคลุมถึงชิป และหลังจาก The Information รายงานว่าบริษัทจีนได้สั่งซื้อชิป H20 สําหรับเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทเซมิคอนดักเตอร์รายนี้มูลค่าอย่างน้อย 16 พันล้านดอลลาร์ในช่วงสามเดือนแรกของปี

  • Nike (NYSE:NKE) ราคาหุ้นลดลง 9.8% และ Walmart (NYSE:WMT) ราคาหุ้นลดลง 4.8% โดยผู้ค้าปลีกทั้งสองรายได้รับผลกระทบอย่างหนักหลังจากมีการเรียกเก็บภาษีนําเข้าจากฐานการผลิตสําคัญ รวมถึงเวียดนาม อินโดนีเซีย และจีน

  • Five Below (NASDAQ:FIVE) ราคาหุ้นลดลง 15%, Dollar Tree (NASDAQ:DLTR) ลดลง 10% และ Gap (NYSE:GAP) ร่วงลง 10% เนื่องจากผู้ค้าปลีกเหล่านี้ซึ่งเป็นผู้ขายสินค้านําเข้ารายใหญ่ กําลังเผชิญกับความยากลําบากจากระบอบภาษีนําเข้าใหม่

  • Microsoft (NASDAQ:MSFT) ราคาหุ้นลดลง 2.7% หลังจาก Bloomberg รายงานว่ายักษ์ใหญ่ด้านซอฟต์แวร์รายนี้ได้ลดขนาดหรือเลื่อนโครงการศูนย์ข้อมูลหลายโครงการทั่วโลก ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวทางที่รอบคอบมากขึ้นในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่รองรับบริการ AI และคลาวด์

  • Lyft (NASDAQ:LYFT) ราคาหุ้นร่วงลง 11% หลังจาก Bank of America ปรับลดคําแนะนําสําหรับบริษัทเรียกรถโดยสารรายนี้เป็นสองระดับจาก "ซื้อ" เป็น "ต่ํากว่าตลาด"

  • RH (NYSE:RH) ราคาหุ้นร่วงลง 28% หลังจากผู้ค้าปลีกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้านรายนี้รายงานแนวโน้มที่อ่อนแอกว่าที่คาดการณ์ไว้ โดยเสริมว่ากําลังเผชิญกับ "ตลาดที่อยู่อาศัยที่แย่ที่สุดในรอบ 50 ปี"

  • Lucid Group (NASDAQ:LCID) ราคาหุ้นลดลง 5% หลังจากบริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายนี้ประกาศว่ามีแผนจะเสนอขายหุ้นกู้แปลงสภาพอาวุโสมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมประกาศว่าได้ส่งมอบรถยนต์เพียงกว่า 3,100 คันในไตรมาสแรก

บทความนี้ถูกแปลโดยใช้ความช่วยเหลือจากปัญญาประดิษฐ์(AI) สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม โปรดอ่านข้อกำหนดการใช้งาน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI