tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาโลหะเงิน: XAGUSD ดีดตัวขึ้นสู่ระดับ $41.00 ท่ามกลางแนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่

FXStreet5 ก.ย. 2025 เวลา 7:28
  • ราคาโลหะเงินอาจเข้าใกล้ $41.47 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011
  • ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ 14 วันแสดงว่าโลหะเงินอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป แต่แนวโน้มยังคงแข็งแกร่ง
  • เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 9 วันที่ $40.17 อาจทำหน้าที่เป็นแนวรับหลัก

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่ลงทะเบียนการขาดทุนมากกว่า 1% ในเซสชั่นก่อนหน้า โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $40.80 ต่อออนซ์ในช่วงเวลายุโรปเมื่อวันศุกร์ การวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟรายวันแสดงให้เห็นว่าราคาโลหะมีค่าขึ้นภายในรูปแบบกรอบราคาขาขึ้น ซึ่งเสริมสร้างอคติขาขึ้นในตลาด

ดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ 14 วัน (RSI) อยู่ที่ระดับต่ำกว่า 70 เล็กน้อย ซึ่งเสริมสร้างอคติขาขึ้น ตัวบ่งชี้โมเมนตัมแสดงว่าโลหะเงินกำลังซื้อขายในโซนซื้อมากเกินไป แต่แนวโน้มขาขึ้นที่มีอยู่ยังคงแข็งแกร่ง โดยผู้ซื้อยังคงควบคุม นอกจากนี้ คู่ XAG/USD กำลังซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบเอ็กซ์โพเนนเชียล 9 วัน (EMA) ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมราคาระยะสั้นกำลังแข็งแกร่งขึ้น

ในด้านบวก คู่ XAG/USD อาจทดสอบ $41.47 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 ที่ทำได้เมื่อวันที่ 3 กันยายน ตามด้วยขอบด้านบนของกรอบราคาขาขึ้นที่ประมาณ $42.00 การทะลุผ่านโซนแนวต้านสำคัญนี้จะเสริมสร้างอคติขาขึ้นและเปิดทางให้โลหะเข้าใกล้ระดับจิตวิทยาที่ $43.00

แนวรับหลักอยู่ที่เส้น EMA 9 วันที่ $40.16 ตามด้วยขอบด้านล่างของกรอบราคาขาขึ้นที่ประมาณ $39.60 การหลุดต่ำกว่ากรอบราคานี้จะทำให้ความรู้สึกขาขึ้นอ่อนแอลงและกดดันราคาโลหะเงินให้ไปถึงเส้น EMA 50 วันที่ $38.14 การขาดทุนเพิ่มเติมจะทำให้โมเมนตัมระยะกลางอ่อนแอลง ดันคู่ XAG/USD ไปยังระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนที่ $35.80 ซึ่งเคยเห็นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม

XAG/USD: กราฟรายวัน

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

KeyAI