tradingkey.logo

การคาดการณ์ราคาเงิน: XAGUSD ซื้อขายอยู่ที่ประมาณ $40.50 หลังจากที่หลุดต่ำกว่าระดับสูงสุดในรอบ 14 ปี

FXStreet2 ก.ย. 2025 เวลา 9:02
  • ราคาโลหะเงินแตะระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 40.85 ดอลลาร์ในวันอังคาร
  • ดัชนี Relative Strength Index (RSI) 14 วันลดลงต่ำกว่า 70 สัญญาณการปรับฐานจากการซื้อมากเกินไป
  • แนวรับหลักอยู่ที่เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 9 วันที่ 39.38 ดอลลาร์

ราคาโลหะเงิน (XAG/USD) หยุดสตรีคการชนะติดต่อกันเป็นเวลา 5 วัน โดยซื้อขายอยู่ที่ประมาณ 40.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงเวลายุโรป หลังจากถอยจาก 40.85 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2011 ที่ทำได้ในวันอังคาร การวิเคราะห์ทางเทคนิคของกราฟรายวันชี้ให้เห็นว่าราคาโลหะมีค่าเพิ่มขึ้นภายในรูปแบบกรอบราคาขาขึ้น ซึ่งเสริมสร้างแนวโน้มขาขึ้น

ดัชนี Relative Strength Index (RSI) 14 วันได้เคลื่อนตัวลงต่ำกว่า 70 เล็กน้อย ซึ่งบ่งชี้ถึงการถอยหลังหลังจากที่เข้าสู่พื้นที่ซื้อมากเกินไป อย่างไรก็ตาม ราคาโลหะเงินอาจกลับมามีเสถียรภาพได้ เนื่องจากความเชื่อมั่นในตลาดยังคงเป็นขาขึ้น นอกจากนี้ ราคาโลหะเงินยังซื้อขายอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เอ็กซ์โพเนนเชียล (EMA) 9 วัน ซึ่งบ่งชี้ว่าโมเมนตัมราคาสั้นๆ ยังคงแข็งแกร่ง

ในด้านบวก คู่ XAG/USD อาจทดสอบระดับสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ 40.85 ดอลลาร์ ตามด้วยระดับจิตวิทยาที่ 41.00 ดอลลาร์

ราคาโลหะเงินอาจพบแนวรับหลักที่เส้น EMA 9 วันที่ 39.37 ดอลลาร์ ตามด้วยขอบล่างของกรอบราคาขาขึ้นที่ประมาณ 39.10 ดอลลาร์ การหลุดต่ำกว่ากรอบนี้จะทำให้แนวโน้มขาขึ้นอ่อนแอลงและกดดันให้ราคาของโลหะลดลงไปถึงเส้น EMA 50 วันที่ 37.78 ดอลลาร์

การลดลงเพิ่มเติมจะทำให้โมเมนตัมราคาระยะกลางอ่อนแอลงและกระตุ้นให้ราคาโลหะเงินเคลื่อนที่ในบริเวณรอบระดับต่ำสุดในรอบสามเดือนที่ 35.80 ดอลลาร์ ซึ่งบันทึกไว้เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม

XAG/USD: กราฟรายวัน

โลหะเงิน: คำถามที่พบบ่อย

แร่เงินเป็นโลหะมีค่าที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนอย่างมากในหมู่นักลงทุน ในอดีต โลหะเงินถูกใช้เป็นสินทรัพย์สะสมมูลค่าและเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน แม้ว่าจะได้รับความนิยมน้อยกว่าทองคํา แต่นักลงทุนอาจหันไปใช้โลหะเงินเพื่อกระจายพอร์ตการลงทุนของตนเพื่อสะสมมูลค่า หรือเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในช่วงที่มีอัตราเงินเฟ้อสูง นักลงทุนสามารถซื้อโลหะเงินจริงในรูปแบบของเหรียญ ในรูปแบบของแท่งหรือซื้อขายผ่านตัวกลางเช่น Exchange Traded Funds ซึ่งอ้างอิงราคาโลหะเงินในตลาดต่างประเทศ

ราคาโลหะเงินสามารถเคลื่อนไหวได้จากปัจจัยหลายประการ ความไม่แน่นอนทางภูมิรัฐศาสตร์หรือความกลัวต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยรุนแรงอาจทําให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นจากสถานะสินทรัพย์ปลอดภัย แม้ว่าจะได้รับความสนใจน้อยกว่าทองคําก็ตาม ในฐานะที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ให้ผลตอบแทน โลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นเมื่ออัตราดอกเบี้ยลดลง การเคลื่อนไหวของโลหะเงินยังขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของดอลลาร์สหรัฐ (USD) เพราะสินทรัพย์โลหะเงินซื้อขายด้วยราคาเป็นดอลลาร์ (XAGUSD) ดอลลาร์ที่แข็งค่ามีแนวโน้มที่จะรักษาราคาโลหะเงินไว้ แต่หากดอลลาร์อ่อนค่าลง มีแนวโน้มที่จะผลักดันราคาโลหะเงินให้สูงขึ้น ปัจจัยอื่นๆ เช่น อุปสงค์การลงทุน อุปทานการขุด (โลหะเงินมีมากกว่าทองคํามาก) และอัตราการนำกลับมาใช้ก็อาจส่งผลต่อราคาโลหะเงินได้เช่นกัน

โลหะเงินมีการใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนต่างๆ เช่น อิเล็กทรอนิกส์หรือพลังงานแสงอาทิตย์ เนื่องจากโลหะเงินสามารถนําไฟฟ้าได้สูงที่สุดชนิดหนึ่งเมื่อเทียบกับโลหะทั้งหมด มากกว่าทองแดงและทองคํา ความต้องการโลหะที่เพิ่มขึ้นสามารถทำให้ราคาโลหะเงินเพิ่มขึ้นได้ การเปลี่ยนแปลงในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐฯ จีน และอินเดียยังสามารถส่งผลต่อการแกว่งตัวของราคาโลหะเงิน ในสหรัฐฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งจีน ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ของพวกเขาใช้โลหะเงินในกระบวนการต่างๆ ในอินเดีย ความต้องการโลหะมีค่าของผู้บริโภคเพื่อเอาไปสร้างเครื่องประดับก็มีบทบาทสําคัญในการกําหนดราคาโลหะเงินเช่นกัน

ราคาโลหะเงินมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนไหวตามราคาทองคํา เมื่อราคาทองคําสูงขึ้น โลหะเงินมักจะเคลื่อนไหวามความเหมาะสม อย่างไรก็ตาม สถานะของสินทรัพย์ทั้งสองไม่ได้อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีความคล้ายคลึงกัน อัตราส่วนเปรียบเทียบทองคําและโลหะเงินจะให้ข้อมูลของจํานวนออนซ์ของโลหะเงินที่จําเป็นเพื่อให้เท่ากับมูลค่าของทองคําหนึ่งออนซ์ อัตราส่วนเปรียบทียบนี้อาจช่วยในการกําหนดการประเมินมูลค่าสัมพัทธ์ระหว่างโลหะทั้งสอง นักลงทุนบางคนอาจพิจารณาว่าหากอัตราส่วนนี้สูง จะหมายความว่าโลหะเงินมีมูลค่าต่ำเกินไป หรือทองคํามีมูลค่าสูงเกินไป ในทางตรงกันข้าม อัตราส่วนที่ต่ำอาจบ่งบอกว่าทองคํามีมูลค่าต่ำกินไปเมื่อเทียบกับโลหะเงิน

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI