tradingkey.logo

NZD/USD แข็งค่าขึ้นใกล้ 0.5600, โฟกัสที่ Trump 2.0

FXStreet20 ม.ค. 2025 เวลา 1:53
  • NZD/USD ปรับตัวขึ้นมาวิ่งใกล้ 0.5600 ในช่วงเช้าของตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ เพิ่มขึ้น 0.20% ในวันนั้น 
  • PBoC คงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี (LPR) ระยะเวลา 1 ปีและ 5 ปีไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ 
  • ความคาดหวังที่ผ่อนคลายของเฟดอาจส่งผลกระทบต่อ USD และสร้างแรงหนุนให้กับคู่สกุลเงินนี้ 

ในตลาดลงทุนเอเชียวันจันทร์ คู่ NZDUSD ยังคงวิ่งอยู่ในแดนบวกใกล้ 0.5600 เงินกีวียังคงแข็งแกร่งหลังจากธนาคารประชาชนจีน (PBOC) ประกาศคงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ชั้นดี (LPR) ไว้ไม่เปลี่ยนแปลงในวันจันทร์ ตลาดอาจมีความระมัดระวังมากขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเตรียมพร้อมสำหรับการประกาศนโยบายก่อนการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีที่ได้รับเลือก โดนัลด์ ทรัมป์ 

ในช่วงเช้าวันจันทร์ ธนาคารกลางจีนตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ย LPR ระยะเวลา 1 ปีและ 5 ปีไว้ที่ 3.35% และ 3.85% ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม ความสนใจจะเปลี่ยนไปที่นโยบายภาษีของทรัมป์ ในเดือนธันวาคม ทรัมป์กล่าวว่าเขาจะกำหนดภาษีสูงถึง 10% สำหรับการนำเข้าทั่วโลกและ 60% สำหรับสินค้าจีน รวมถึงภาษีนำเข้า 25% สำหรับผลิตภัณฑ์จากแคนาดาและเม็กซิโก 

การพัฒนาใด ๆ ในเศรษฐกิจจีนมักจะส่งผลกระทบต่อเงินกีวี เนื่องจากจีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ "การเริ่มต้นที่แข็งแกร่งของวาระใหม่ของทรัมป์อาจทำให้เกิดความกังวลและให้การสนับสนุนดอลลาร์มากขึ้น" ปีเตอร์ ดรากิเซวิช นักกลยุทธ์สกุลเงินของ Corpay กล่าว

ในทางกลับกัน ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ ที่อ่อนลงและความคิดเห็นที่ผ่อนคลายจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจจำกัดขาขึ้นของดอลลาร์สหรัฐ คริสโตเฟอร์ วอลเลอร์ ผู้ว่าการเฟดเน้นย้ำผลลัพธ์เงินเฟ้อที่ดีซึ่งอาจสนับสนุนการลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ โดยเสริมว่าการลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมีนาคมยังคงเป็นไปได้หากข้อมูลที่เข้ามาสนับสนุนการลดราคาต่อไป 

New Zealand Dollar FAQs

ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) หรือที่เรียกกันในชื่อเล่นว่ากีวี เป็นสกุลเงินที่ซื้อขายกันดีในหมู่นักลงทุน มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวถูกกําหนดโดยความแข็งแรงของเศรษฐกิจนิวซีแลนด์และนโยบายจากธนาคารกลางภายในประเทศ ถึงกระนั้น ก็มีปัจจัยเฉพาะบางอย่างที่สามารถทําให้ NZD เคลื่อนไหวได้อย่างเช่น ผลการดําเนินงานของเศรษฐกิจจีนมีแนวโน้มที่จะขยับราคากีวี เนื่องจากจีนเป็นประเทศคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของนิวซีแลนด์ เช่นหากมีข่าวร้ายสําหรับเศรษฐกิจจีนก็มักจะหมายถึงการส่งออกของนิวซีแลนด์ไปยังประเทศจีนที่จะน้อยลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเศรษฐกิจและค่าเงิน อีกปัจจัยหนึ่งที่ทําให้ NZD เคลื่อนไหวอย่างเจาะจงคือราคานม เนื่องจากอุตสาหกรรมนมเป็นสินค้าส่งออกหลักของนิวซีแลนด์ ราคานมที่สูงช่วยเพิ่มรายได้จากการส่งออก ซึ่งเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและต่อสกุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์

ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ (RBNZ) ตั้งเป้าที่จะบรรลุและรักษาอัตราเงินเฟ้อระหว่าง 1% ถึง 3% ในระยะกลาง โดยมุ่งเน้นที่จะควบคุมอัตราเงินเฟ้อให้อยู่ใกล้จุดกึ่งกลางที่ 2% ด้วยเหตุนี้ธนาคารจึงจะกําหนดระดับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสม เมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงเกินไป RBNZ จะปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อทําให้เศรษฐกิจเย็นตัวลง แล้วการดำเนินการดังกล่าวจะทําให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสูงขึ้นเพิ่มความน่าสนใจของนักลงทุนที่จะลงทุนในประเทศและช่วยหนุนค่าเงิน NZD ในทางตรงกันข้าม อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลงมีแนวโน้มที่จะทำให้ NZD อ่อนค่าลง ด้านส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ยหรือที่เรียกว่า Rate Differential ในนิวซีแลนด์คือระดับของอัตราดอกเบี้ยในนิวซีแลนด์หรือที่ธนาคารกลางคาดการณ์ เทียบกับอัตราดอกเบี้ยที่เป็นหรือกําหนดโดยธนาคารกลางสหรัฐ ยังสามารถมีบทบาทสําคัญในการขยับคู่เงิน NZD/USD

การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจระดับมหภาคในนิวซีแลนด์เป็นกุญแจสําคัญในการประเมินสถานะทางเศรษฐกิจและอาจส่งผลกระทบต่อการประเมินมูลค่าของดอลลาร์นิวซีแลนด์ได้ เศรษฐกิจที่แข็งแกร่งบนพื้นฐานของการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง การว่างงานต่ำและความเชื่อมั่นนักลงทุนที่สูงเป็นปัจจัยบวกสําหรับ NZD การเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศและอาจกระตุ้นให้ธนาคารกลางนิวซีแลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหากความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจนี้มาพร้อมกับอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้น ในทางกลับกันหากข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอ สกุลเงิน NZD ก็มีแนวโน้มที่จะอ่อนค่าลง

ดอลลาร์นิวซีแลนด์ (NZD) มีแนวโน้มที่จะแข็งค่าขึ้นในช่วงที่ต้องมีความกล้าเสี่ยง หรือแม้เมื่อนักลงทุนรับรู้ว่าความกล้าเสี่ยงของด้านตลาดในวงกว้างอยู่ในระดับต่ำแต่มีการมองโลกในแง่ดีเกี่ยวกับอนาคตการเติบโต สถานการณ์นี้ก็มีแนวโน้มที่จะนําไปสู่แนวโน้มเชิงบวกมากขึ้นสําหรับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ และสกุลเงินแบบที่เรียกว่า 'สกุลเงินสายสินค้าโภคภัณฑ์' อย่างเช่นกีวีด้วย NZD มีแนวโน้มที่จะอ่อนตัวลงในช่วงเวลาที่ตลาดปั่นป่วนหรือมีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ เนื่องจากนักลงทุนมักจะขายสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงและหลบไปถือสินทรัพย์ปลอดภัยที่มีเสถียรภาพมากกว่า

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ให้ไว้บนเว็บไซต์นี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ทางการศึกษาและให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ควรถือเป็นคำแนะนำทางการเงินหรือการลงทุน
Tradingkey

บทความที่เกี่ยวข้อง

Tradingkey
KeyAI